เฟดประกาศหั่นดอกเบี้ยอีก 0.25% นักเศรษฐศาสตร์คาดอาจลดเพิ่ม ธ.ค.นี้

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในระหว่างวันที่ 17-18 ก.ย.ที่ผ่านมา เมื่อช่วงดึกของวานนี้ (18 ก.ย.) คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.00% ตามคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยมีมติ 7-3 เสียงให้การสนับสนุน ทั้งนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 30-31 ก.ค.ที่ผ่านมา

รายงานระบุว่า คณะกรรมการฯ ของเฟด จำนวน 3 ราย ที่ลงมติต่างไปจากเสียงส่วนใหญ่ในระหว่างการประชุมครั้งล่าสุดนี้ นับเป็นการแสดงถึงความแตกแยกระหว่างคณะกรรมการเฟด ซึ่งจะมีนัยยะสำคัญต่อการกำหนดนโยบายการประชุมในครั้งต่อๆ ไปได้

อย่างไรก็ตาม เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในอนาคต ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังปิดการประชุม กล่าวว่า “นี่เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากในการตัดสินใจ การดำเนินนโยบายทางการเงินที่เหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐ จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐให้สามารถขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนในปัจจุบันหลายปัจจัย”

นอกจากนี้ เขาได้กล่าวอีกว่า เฟดจะดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องหากมีความจำเป็น แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะปรับลดอีกเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ Doug Duncan นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ สมาคมการจำนองแห่งชาติของรัฐบาลกลาง (Fannie Mae) กลับมองว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยอีกหนึ่งครั้งในปีนี้ ในวาระการประชุมในเดือนธ.ค. ปีนี้ จากความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐที่อาจจะยืดเยื้อไปจนถึงปีหน้า