เมื่อเวันที่ 18 กันยายน ที่อาคารรัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า พฤติกรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ถ้าไม่ห้ามปราม อาจเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งเป็นอันตรายมาก เนื่องจากมีอานุภาพการทำลายล้างสูง เพราะเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ฝ่ายค้านอยากทราบว่า เหตุใด พล.อ.ประยุทธ์ จึงจงใจไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญอย่างครบถ้วน อาจเป็นเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจเข้ามา เลื่อนเลือกตั้งหลายครั้ง เลือก ส.ว.โดยไม่ถูกตามต้องกฎหมาย ดังนั้น ในอนาคตจึงไม่มีอะไรรับประกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ หรืออาจทำการยึดอำนาจอีก ที่แล้วมา ทุกคนมีข้อเสนอแนะต่างๆ ต่อเรื่องนี้ แต่รัฐบาลกลับทำให้ผิดหวัง เสียใจ เพราะนอกจากจะไม่ตอบแล้ว ยังบอกว่าเป็นสิทธิที่จะไม่ตอบ โดยไม่เห็นใจสมาชิกสภาเลย

นายสุทินกล่าวว่า ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ทำให้ผิดหวังและเสียใจเช่นกัน เพราะพูดเท็จในหลายเรื่อง อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 19 กันยายนนี้ จะแถลงข่าวถึงลำดับขั้นตอนการเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ตามเอกสารของสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งต้องปฏิบัติตามขั้นตอนดังกล่าว ซึ่งทุกคนจะทราบว่ามีขั้นตอนการปฏิบัติอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ อยากถาม พล.อ.ประยุทธ์ ว่าเหตุใดกล่าวคำถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายวิษณุ พยายามอธิบายให้คนเข้าใจว่า แม้กล่าวคำถวายสัตย์ไม่ครบถ้วน ก็ไม่มีปัญหา ถ้าพระมหากษัตริย์ พระราชทานพระราชดำรัส ลงมา

นายสุทินกล่าวว่า ส่วนที่ระบุว่าเป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลกับพระมหากษัตริย์ ตรงนี้เห็นว่าเป็นเรื่องระหว่างพระมหากษัตริย์กับประชาชน ที่การถวายสัตย์นั้น พระมหากษัตริย์ จะมีพระราชดำรัสถึงประชาชน จึงจะเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ เรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก ถือเป็นการทำลายหลักนิติรัฐนิติธรรมอย่างชัดเจน ซึ่งถ้าเป็นการกระทำของนายกฯ เช่น นายทักษิณ ชินวัตร คงแหลกเป็นจุล วันนี้กลับกลายเป็นว่ารัฐบาลนี้ทำอะไรก็ไม่ผิด แต่อีกฝั่งทำอะไรก็ผิด เมื่อสังคมเป็นเช่นนั้น ก็จะเกิดบาดแผล แล้วความสามัคคีปรองดองจะเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะการกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้นถือเป็นการลดทอดสถาบันอันเป็นที่รักของเรา สิ่งที่นายกฯต้องทำคือ ฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประเทศ ยกยอเทิดทูนสถาบันอันเป็นที่รักของชาติ แบบพันท้ายนรสิงห์ หรือ พ.ต.ต.อนันต์ เสนาขันธ์ ที่ยอมเอากระดูกตัวเองไปบำรุงลานโพให้สูงส่ง ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ควรลาออก ซึ่งสามารถกลับมาอีกรอบได้ แต่หากไม่ยอม เชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า พฤติกรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ จะส่งผลเอง