น้ำมันดิบดิ่งลง 5.7% ขณะซาอุฯระบุจะฟื้นฟูการผลิต

REUTERS/Jean-Paul Pelissier

เมื่อวันที่ 18 กันยายน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลง 5.7% ในวันอังคาร หลังจากเจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน รมว.พลังงานของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า ซาอุดิอาระเบียสามารถจัดส่งน้ำมันให้แก่ลูกค้าได้ในระดับเดิม โดยใช้วิธีนำน้ำมันในคลังสำรองออกมาใช้ และซาอุดิอาระเบียจะฟื้นฟูปริมาณการผลิตน้ำมันให้กลับคืนสู่ระดับเดิมก่อนสิ้นเดือนก.ย. หลังจากเกิดเหตุโจมตีโรงงานน้ำมันในซาอุดิอาระเบียในวันเสาร์ที่ผ่านมา และเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้น 20% ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันจันทร์

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนต.ค.ดิ่งลง 3.56 ดอลลาร์ มาปิดตลาดที่ 59.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนรูดลง 4.47 ดอลลาร์ หรือ 6.5% สู่ 64.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

แหล่งข่าวกล่าวว่า บริษัทซาอุดิ อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตน้ำมันของรัฐบาลซาอุดิอาระเบียได้แจ้งต่อโรงกลั่นน้ำมันบางแห่งในเอเชียว่า ซาอุดิ อารามโคจะปฏิบัติตามภาระผูกพันที่มีอยู่ แต่จะมีการปรับเปลี่ยนบ้าง หลังจากเหตุโจมตีโรงงานน้ำมันที่อับกอยก์และคูไรส์ในซาอุดิอาระเบีย ส่งผลให้เกิดเหตุขัดข้องทางการผลิตน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 50 ปี และเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อสถานะของซาอุดิอาระเบียในฐานะที่พึ่งสุดท้ายในการจัดหาน้ำมัน

นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐกำลังพิจารณาหลักฐานที่บ่งชี้ว่า อิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีซาอุดิอาระเบียในครั้งนี้ ทางด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐคนหนึ่งกล่าวต่อรอยเตอร์ว่า รัฐบาลสหรัฐเชื่อว่าการโจมตีนี้มาจากภาคตะวันตกเฉียงใต้ของอิหร่าน ทั้งนี้ รัฐบาลอิหร่านปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ และปฏิเสธที่จะหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ

หลังจากตลาด NYMEX ปิดทำการในวันอังคาร การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ซึ่งเป็นหน่วยงานของเอกชน ได้เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 ก.ย. โดยระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 592,000 บาร์เรล สู่ 422.5 ล้านบาร์เรล ถึงแม้โพลล์รอยเตอร์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจดิ่งลง 2.5 ล้านบาร์เรล