ยูเอ็นห่วง โรฮิงญา 6 แสนชีวิตในพม่า ยังคงเสี่ยงหนักถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

วันที่ 17 กันยายน 2562 สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ทีมค้นหาความจริงกรณีโรฮิงญาได้รายงานต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนยูเอ็นในเวทีรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนหรือยูพีอาร์ ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทีมสืบสวนนำโดยน.ส.ลียางฮี ได้ระบุว่า ชาวมุสลิมโรฮิงญาในพม่าหลายแสนคน ยังคงเผชิญกับความเสี่ยงอย่างร้ายแรงที่จะถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ พร้อมเตือนว่าการส่งกลับชาวโรฮิงญานับล้านที่ถูกขับไล่ออกจากพม่าโดยกองทัพนั้นยังคงเป็นไปไม่ได้

ตามข้อมูลของทีมค้นหาความจริงในพม่าโดยยูเอ็น ชี้ให้เห็นว่าปฏิบัติการทหารต่อการขับไล่ชาวโรฮิงญาถูกจัดเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ พร้อมกับเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับบรรดานายพลระดับสูงของพม่ารวมถึงมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดพม่า อีกทั้งในรายงานระบุว่า ยังคงมีชาวโรฮิงญา 6 แสนคนยังอยู่ในรัฐยะไข่ในสภาพความเป็นอยู่ที่อันตรายและน่าเวทนา

“พม่ายังคงปกปิดเจตนาในการก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และชาวโรฮิงญายังคงอยู่ในความเสี่ยงรุนแรงในการถูกกวาดล้าง” ทีมสืบสวนกล่าวถึงรายงานสุดท้ายของสถานการณ์ในพม่่าและว่า พม่าทั้งปฏิเสธความผิด ทำลายหลักฐาน ปฏิเสธอำนวยความสะดวกให้สืบสวนอย่างมีประสิทธิภาพ รื้อถอน ยึดครองและก่อสร้างบนพื้นที่ของชาวโรฮิงญาพลัดถิ่น ชาวโรฮิงญามีสภาพชีวิตผิดต่อหลักมนุษยธรรม

ด้านผู้เชี่ยวชาญสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นยังกล่าวกับคณะมนตรีสิทธิฯยูเอ็นว่า ชาวโรฮิงญา มากกว่า 65,000 คน ต้องไร้ที่อยู่จากความขัดแย้งทั่วพื้นที่รัฐยะไข่ทางเหนือและรัฐชินทางใต้ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้ นายซอว์ มิน ทุน โฆษกกองทัพพม่า ได้ปฏิเสธรายงานของทีมสืบสวนของยูเอ็นว่าเป็นการพูดฝ่ายเดียว พร้อมระบุว่า แทนที่จะออกมาปั้นข้อหาที่มีแต่อคติ พวกเขาควรลงไปดูให้เห็นความจริงตรงนั้นดีกว่า

อย่างไรก็ตาม ทีมสืบสวนของยูเอ็นก็ไม่เคยได้รับอนุญาจจากทางการพม่าให้เข้าพม่าหรือเข้ารัฐยะไข่