เผยแพร่ |
---|
เชียร์ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง! ”สุเทพ” ย้ำหนุน “บิ๊กตู่” พาประเทศไปรอด เสียงปริ่มน้ำไม่น่ากลัว รัฐบาลอยู่ได้ เตือนฝ่ายค้านไม่มีศีลธรรม สร้างเรื่องกล่าวหา ปชช.จะสั่งสอน
เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.)ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารวิทยาลัย กล่าวภายหลังตรวจความเรียบร้อยของสถานที่ที่จะใช้ต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ โดยเปิดเผยว่า ตนได้ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองมาโดยตลอด และจากสถานการณ์ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ในขณะนี้ หากมองย้อนไปในประวัติศาสตร์ รัฐบาลผสมไม่ใช่ของใหม่ สิ่งสำคัญคือ คณะรัฐมนตรี(ครม.)ต้องระมัดระวังในการทำงานร่วมกันเป็นพิเศษ ที่ผ่านมาที่อยู่ไม่ได้ เพราะทะเลาะกันเอง ตีกันเอง พรรคนั้นทะเลาะกับพรรคนี้ คนเป็นนายกฯจะลำบาก เพราะเรามีภาระหน้าที่ที่ต้องพาประเทศชาติฝ่าฟันวิกฤติไปให้ได้ ทั้งเศรษฐกิจและการเมือง ดังนั้นเสียงปริ่มน้ำไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ถ้าทุกคนที่เป็นส.ส.มีความรับผิดชอบ ไปประชุมกันอย่างพร้อมเพรียงก็จะอยู่ได้
“ผมไม่ค่อยกังวลใจเท่าไหร่ เพราะผมเชื่อว่า วันนี้คนไทยทุกคนไม่ว่านักการเมือง สื่อมวลชน พ่อค้าและนักธุรกิจ ล้วนผ่านประสบการณ์ทางการเมืองมาด้วยกันอย่างโชกโชน ทุกคนต้องมองเห็นแล้วว่าเราต่างมีภาระหน้าที่ ต้องช่วยประคับประคองบ้านเมือง” นายสุเทพกล่าว
นายสุเทพกล่าวต่อว่า ส่วนการทำงานของฝ่ายค้านนั้น เราจะไปโกรธเขาไม่ได้ เพราะ เขาเป็นฝ่ายค้าน ทำหน้าที่เป็นกระจก เราก็คอยชำเลืองมองดูจะได้เห็น เขาจะใช้วิธีอะไรก็ไม่เป็นปัญหา สุดท้ายก็จะได้รับการสั่งสอนจากประชาชนเอง ว่าคุณจะต้องอยู่ในศีลธรรมเหมือนกัน ไม่ใช่ไปสร้างเรื่องมากล่าวหา ใส่ร้ายป้ายสีเขา อย่างนั้นคนจะไม่ยอม ซึ่งคิดว่าคงอีกสักพักหนึ่ง ตอนนี้เพิ่งเลือกตั้งมาใหม่ๆ ก็จะร้อนวิชากัน
เมื่อถามถึงกรณีมีรัฐมนตรีบางคนที่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติอยู่ในขณะนี้ สุเทพกล่าวว่าไม่ใช่เฉพาะฝ่ายค้านที่ตรวจสอบ แต่วันนี้สังคมและประชาชนก็ตรวจสอบ ถ้าใครไม่ผ่านก็จะหลุดไปตามระบบ แต่ในภาพรวมรัฐบาลก็ต้องขับเคลื่อนกันต่อไป ขณะที่คนเป็นนายกฯของประเทศไทย เป็นผู้นำรัฐบาล ต้องมีความอดทนเป็นพิเศษ เป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งที่จำเป็น นอกจากนี้ ต้องพร้อมจะเผชิญหน้ากับความเป็นจริง และพูดคุยกับประชาชนด้วยความจริงในทุกเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม วันนี้ถือเป็นการเจอกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างตนกับพล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่เขาทำรัฐประหารมาก็ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับเขา โดยก่อนหน้านี้หลังจากเหตุการณ์รัฐประหารในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ก็ได้เจอกันบ้างประปรายตามงานศพหรืองานแต่งงาน แต่ตนเชียร์พล.อ.ประยุทธ์มาโดยตลอด เพราะเห็นว่าเขาเป็นคนที่เราพอจะพึ่งพิงได้ ประคับประคองประเทศได้ ซึ่งในช่วงหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา แม้จะอยู่คนละพรรค ตนก็ปราศรัยเชียร์พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนเรื่องจะอยู่ถึง 8 ปีนั้น เป็นเรื่องที่คนก็พูดไป แต่ตอนนี้ขอเชียร์ให้นำพาประเทศไปให้รอดแล้วกัน