อ้าง’ชวน’แนะประชุมสภาอย่างมีคุณภาพ ยันซักฟอก’บิ๊กตู่’ไม่แตะสถาบัน

“หมอชลน่าน”บอก “ชวน” แนะให้ประชุมฯสภาอย่างมีคุณภาพ ยันซักฟอก “บิ๊กตู่” ไม่แตะสถาบัน แต่จะพูดถึงผลพวง –ผลกระทบ หวังนายกฯตอบตรงประเด็น

เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่รัฐสภา น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ได้มีโอกาสเข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ได้เปรยว่า ช่วงนี้สภาฯประชุมแบบไม่มีคุณภาพ ใช้เวลาบางเรื่องนานเกินไป ซึ่งได้ก็เสนอแนะ เช่นวาระการพิจารณาเรื่องรับทราบควรกำหนดเวลาและให้สมาชิกไปบริหารเวลาให้อยู่ในกรอบ เว้นแต่ประเด็นที่ดีๆ มีการตรวจสอบและซักถามก็เกินเวลาที่กำหนดได้ จากนั้นก็ได้ไปหารือกับวิปรัฐบาล ทุกคนก็เห็นด้วย จึงคาดว่าหลังปิดสมัยประชุมจะมีการพูดคุยกัน ที่สำคัญข้อบังคับใหม่มีคณะกรรมการประสานงานร่วมในสภาฯ ซึ่งมีทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล และมีรองประธานสภาฯ เป็นประธาน จะร่วมกันหารือถึงกรอบการทำงานเพื่อให้การประชุมสภาฯมีประสิทธิภาพและมีสาระที่ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด

เมื่อถามถึงญัตติการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ นายกรัฐมนตรีในวันที่18 กันยายน ว่า แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับพิจารณาประเด็นถวายสัตย์ไม่ครบ แต่ฝ่ายค้านยังมีเรื่องจะอภิปรายอีกมาก เช่น จะถามถึงสิ่งที่เป็นผลพวงและผลกระทบต่อการใช้อำนาจรัฐ และผลกระทบต่อความเชื่อมั่น โดยไม่มีการแตะต้องสถาบัน และไม่ถามว่าทำไมจึงถวายสัตย์ไม่ครบเพราะชัดเจนอยู่แล้ว หากตีความหมายของรัฐธรรมนูญจะเห็นว่าไม่ได้ห้ามการใช้กลไกของสภาตรวจสอบ เพราะเห็นว่าการถวายสัตย์เป็นประเด็นการเมือง ซึ่งสอดคล้องกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 47 ที่ระบุว่าถ้าเป็นการกระทำของรัฐบาลต้องไม่กระทบสิทธิ์ของประชาชน โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับสถาบันกษัตริย์ ซึ่งประชาชนไม่สามารถใช้สิทธิ์ฟ้องละเมิดได้ เพราะระบุว่าต้องเป็นหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยงานที่ใช้อำนาจรัฐเท่านั้นถึงจะฟ้องได้ ดังนั้น จึงเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง ทั้งนี้ เรามีประเด็นที่สังเกตว่าการกระทำของรัฐบาลที่มีความสำคัญกับสถาบันไม่มีองค์กรใดตรวจสอบได้ แต่ถ้าเกี่ยวกับการใช้อำนาจแล้วกระทบประชาชน เช่นเรื่องนี้ สภาสามารถใช้อำนาจตรวจสอบได้ เพราะถือเป็นประเด็นการเมือง

เมื่อถามว่าหากยังอภิปรายเรื่องนี้ อาจจะมีความสุ่มเสี่ยงได้ น.พ.ชลน่านกล่าวว่าเราไม่กลัวเพราะเรามีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นกำแพงพิงหลังให้กับฝ่ายนิติบัญญัติ จึงไม่มีโอกาสที่จะสุ่มเสี่ยงถูกฟ้องร้อง เมื่อถามว่าคาดหวังหรือไม่ว่าการชี้แจงของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะตอบได้ตรงประเด็นหรือไม่ น.พ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนไม่ได้คาดหวังว่าจะตอบตรงหรือไม่ตรง เป็นหน้าที่ของท่านที่จะมาตอบคำถามเราเพราะมาตรา 152 เขียนชัดว่าเป็นญัตติอภิปรายทั่วไป ซักถามข้อเท็จจริงจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)หรือเสนอแนะความเห็นของเราต่อครม

“ท่านนายกฯจะตอบตรงหรือไม่ตรงขึ้นอยู่กับสถานการณ์คำถามหน้างานเป็นหลัก หากประเด็นไหนที่เราถามชัดเจนแต่ท่านเลี่ยงจะตอบสื่อก็คงจะพิจารณาและประชาชนก็เห็นเอง”นพ.ชลน่าน กล่าว

เมื่อถามว่า หากมีการประท้วงของฝ่ายรัฐบาลจะทำอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของสมาชิก แต่ต้องเป็นไปตามข้อบังคับ เราจึงต้องตระหนักว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เขาประท้วง คือต้องอยู่ในกติกาอภิปรายในเนื้อหาที่ไม่สุ่มเสี่ยงให้เขาประท้วงได้ มิเช่นนั้นจะเป็นเกมในสภาฯ ไม่มีใครได้ประโยชน์ และสภาฯก็จะเสียหายด้วย