เผยแพร่ |
---|
เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ สกลนคร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าประชุมชี้แจงนโยบายและรับฟังความคิดเห็นประชาชนโครงการนโยบายประกันรายได้เกษตรกรของรัฐบาลที่จังหวัดร้อยเอ็ด
โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะตรวจเยี่ยมและพบปะเกษตรกรเพื่อชี้แจงตั้งแต่เวลา 09:30 น. ที่อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมการรับฟังความคิดเห็นเกษตรกรถึงมาตรการข้าวของรัฐบาลโดยจะมีการรับฟังความคิดเห็นของตัวแทนสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยด้วย
นอกจากนั้นยังมีกำหนดการไปพบกับสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย เพื่อรับฟังการดำเนินงานของสหกรณ์ ตรวจงานขั้นตอนการผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้และตรวจเยี่ยมศูนย์กระจายสินค้าการเชื่อมโยงสินค้าโดยเฉพาะสินค้าเกษตรผลไม้จากภาคใต้ นอกจากนั้นก็มอบป้ายทดสอบน้ำหนักผลผลิตทางการเกษตรโดยกรมการค้าภายใน และรองนายกรัฐมนตรี ยังมีกำหนดการไปพบเกษตรกรบ้านเมืองเปลือย อำเภอเมืองเปลือย อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด
รายงานข่าวแจ้งว่ารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้นโยบายต่อกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ให้เร่งประชุมชี้แจงผู้เกี่ยวข้องในภูมิภาคพร้อมรับฟังความคิดเห็นประชาชน เนื่องจากเงินส่วนต่างจากโครงการประกันรายได้ข้าวจะคิกออฟจ่ายเงินถึงมือประชาชนในวันที่ 15 ตุลาคม เป็นต้นไป
โดยก่อนหน้านี้นายจุรินทร์ได้ผลักดันโครงการประกันรายได้เกษตรกรในผลผลิตเกษตร 5 ชนิด คือข้าว ปาล์ม ยางพารา มันสำปะหลัง และข้าวโพด และในโครงการประกันรายได้เกษตรกรปลูกข้าวนั้นจะใช้วงเงิน 21,495 ล้านบาท เพื่อใช้ในการประกันรายได้ราคาข้าวให้ชาวนาที่ปลูกข้าว 5 ชนิด มีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรปลูกข้าวปี 2562 จำนวน 892,176 ครัวเรือน ระยะเวลาโครงการต.ค.2562-ต.ค.2563 ประเภทข้าวที่ได้รับประกัน คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 15,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน , ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน , ข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 11,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว 12,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
ข่าวแจ้งว่า สำหรับวันเดียวกันนี้ นายจุรินทร์มีกำหนดการ เกี่ยวกับการผลักดันการค้าชายแดนและเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร-สะหวันนะเขต เพื่อสานสัมพันธ์การค้าเชื่อมโยงสองฝั่งโขง และรับฟังรายงานผลการลงนามเอ็มโออยู่ระหว่างเอกชนไทย-สปป.ลาว พร้อมประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนไทย.ลาว และเป็นประธานเปิดมหกรรมการค้าชายแดนด้วย อีกด้วย