‘วิปรัฐบาล’ เครียด เสียงปริ่มน้ำทำงานลำบาก หลังศาลสั่งจำคุก ‘ไวพจน์’

“วิปรัฐบาล” ยอมรับ ห่วงเสียงปริ่มน้ำทำงานลำบาก หลังศาลสั่งจำคุก “รามสูร” เผย พปชร.จ่อชงตั้ง กมธ.แก้รัฐธรรมนูญเร็วๆ นี้

เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่อาคารรัฐสภา นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกล่าวกรณีศาลมีคำสั่งพิพากษาจำคุก 4 ปี พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) คดีล้มการประชุมอาเซียนปี 2552 ว่า ขณะนี้คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างรอหมายเรียกศาล ที่จะเรียกให้มาพบในวันที่ 31 ตุลาคม ดังนั้น พ.ต.ท.ไวพจน์ จึงยังทำหน้าที่ ส.ส.ไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม ทั้งนี้ ยอมรับว่ากังวลเสียง ส.ส.ของฝ่ายรัฐบาลที่จะหายไป 1 เสียง แต่การที่เสียงปริ่มน้ำนั้นถือเป็นเรื่องปกติ ที่จะมีคนเข้ามาแล้วออกไป ซึ่งเราต้องหันหน้าคุยกัน และตอนนี้ก็ยังถือว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ยอมว่าทำหน้าที่ลำบาก แต่ก็จะพยายามทำหน้าที่ประคองทุกอย่างไปจนถึงการปิดสมัยการประชุมสภา

นายวิรัชกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม หากจะต้องเชิญพรรคอื่นๆ มาร่วมรัฐบาล ก็เป็นหน้าที่ของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค พปชร.โดยระหว่างนี้คนที่ทำหน้าที่ประสานงาน ก็จะทำหน้าที่ต่อไป ทั้งนี้ ยอมรับว่าการทำหน้าที่ของ ส.ส.อาจยังมีความไม่เข้าใจกันบ้าง ซึ่งตอนนี้ฝ่ายรัฐบาลเหลือทั้งหมด 249 จาก 251 เสียง แต่ยืนยันว่ายังอยู่กันได้ เพราะ ส.ส.ในสภาตอนนี้มีเพียง 498 คน ไม่ถึง 500 คน นอกจากนี้ ประธานสภาและรองประธานสภา ก็ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาร่วมโหวตในการลงมติแต่ละครั้ง เพราะการลงมติแต่ละครั้ง มี ส.ส.ลงคะแนนเพียง 450-460 คน โดยประมาณ

นายวิรัชยังกล่าวถึงการจะมีการเลือกตั้งซ้อม จ.นครปฐมและ จ.กำแพงเพชร ว่า พรรคที่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ก็คาดหวังว่าจะได้ ส.ส.และเราคาดหวังว่าในสมัยการประชุมหน้า ฝ่ายรัฐบาลจะมีเสียงเพิ่มมากขึ้น

นายวิรัชกล่าวแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค พปชร.ว่า ขณะนี้นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค พปชร.กำลังเตรียมเรื่องเพื่อยื่นต่อนายชวน หลีกภัยประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ตั้ง กมธ.ศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คาดว่าจะมีการยื่นภายในวันเดียวกันนี้หรือว่าวันที่ 13 กันยายน หรืออาจเป็นสมัยการประชุมหน้า โดยต้องรอดูพรรคร่วมรัฐบาลอื่นด้วย และต้องพิจารณาด้วยว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนหรือไม่ เพราะตอนนี้จะปิดสมัยการประชุมอยู่แล้ว อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้มีทั้งพรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลยื่นให้ตั้ง กมธ.ในเรื่องดังกล่าว แต่เชื่อว่าสุดท้าย ก็จะตั้งเป็นกรรมาธิการคณะเดียวกัน