จากกรณีที่ศาลจังหวัดพัทยา จ.ชลบุรี อ่านคำพิพากษาคดีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ หรือ นปช. นำพาคนเสื้อแดงบุกล้มการประชุมอาเซียน ที่โรงแรมรอยัลคลิปบีชรีสอร์ท เมืองพัทยา เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2552 โดยมีแกนนำ นปช.ถูกฟ้องเป็นจำเลย ดังนี้ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง,นายนิสิต สินธุไพร ,นายพายัพ ปั้นเกตุ,นายวรชัย เหมะ,นายวันชนะ เกิดดี ,นายพิเชษฐ สุขจินดาทอง ,นายศักดิ์ดา นพสิทธิ์ ,พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรรัตน์ ,นายนพพร นามเชียงใต้,นายสำเริง ประจำเรือ ,นายสมญศฆ์ พรหมมาฐนพ.วัลลภ ยังตรง และ นายสิงห์ทอง บัวชุม โดยศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ที่สั่งจำคุก จำเลยคนละ 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้ออกหมายจับจำเลยที่ไม่มาฟังคำพิพากษา ยกเว้นนาย ศักดิ์ดา นพฤทธิ์ หรือ นพสิทธิ์ ที่มาฟังคำพิพากษา และยกฟ้องนายสมญศฆ์ พรหมมา เพราะศาลยกฟ้องที่ศาลฎีกาเมื่อวานนี้

เมื่อวันที่ 12 กันยายน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบก.สตม. ระบุว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งให้ทางตำรวจ ตม.ไปคัดสำเนาศาลเพื่อนำมาเข้าสู่ระบบ ขึ้นแบล็คลิสต์ บุคคลที่ถูกออกหมายจับ 9 คน รวมทั้งได้สั้งการตรวจเข้มเส้นทางเข้าออกประเทศ เบื่องต้นตอนนี้ ยังไม่พบว่ามีการเดินทางออกนอกประเทศของแกนนำกลุ่มดังกล่าว