ส.ส.ประจวบฯจี้ 2 รมต.เร่งออกเอกสารสิทธิที่ดินเช่านิคมสหกรณ์บางสะพาน ครอบคลุมพื้นที่ 2 อำเภอ 9 ตำบล

เมื่อวันที่ 12 กันยายน นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.เขต 3 จ.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ได้เสนอข้อหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่นิคมสหกรณ์ทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่นิคมสหกรณ์บางสะพาน ในพื้นที่ 9 ตำบลของ อ.บางสะพาน และ อ.บางสะพานน้อย ขอให้หน่วยงานรัฐเร่งแก้ไขเป็นพื้นที่นำร่องของประเทศ หลังจากมีการหารือกับเจ้าหน้าที่สหกรณ์ระดับจังหวัด เนื่องจากนิคมสหกรณ์บางสะพานได้ขออนุญาตใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ ตามพะราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดที่ดินเพื่อการครองชีพตั้งแต่ พ.ศ.2511 เป็นต้นมา เพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าไชยราช-คลองกรูด ป่าพุน้ำเค็มกว่า 1.7 แสนไร่ มีประชาชน 7,000 ราย เข้าทำกิน 1.1 แสนไร่ หรือ กว่า 9,000 แปลง ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ติดถนนเพชรเกษม ซึ่งมีความเจริญทางด้านเศรษฐกิจการเกษตร แต่การเสนออกเอกสารสิทธิยังไม่มีความคืบหน้านานหลายสิบปี

“ขอให้กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งรัดแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่อยู่ในเขตนิคมฯ ให้ได้ประโยชน์จากการรับรองสิทธิรายละ 50 ไร่ เพื่อแปลงที่ดินให้เป็นทุนหลังการออกเอกสารสิทธิ เป็นประโยชน์ในขึ้นทะเบียนเกษตรกร ทั้งสวนมะพร้าว สวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน ที่ผ่านมาได้ชี้แจงในที่ประชุมอำเภอบางสะพานแล้ว จากนั้นจะประสานผ่านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เร่งดำเนินการ พร้อมเร่งรัดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เสนอญัตติเข้าที่ประชุมสภาท้องถิ่นมีมติรับรองการใช้ที่ดินในเขตนิคมให้ครบถ้วน“ นายประมวลกล่าว

นายสันทัด เดชเกิด แกนนำเครือข่ายภาคประชาสังคม อ.บางสะพานและ อ.บางสะพานน้อย กล่าวว่า ที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ทั้ง 2 แห่ง นิคมสหกรณ์บางสะพานหมดสัญญาเช่ากับกรมป่าไม้นานกว่า 2 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการต่อสัญญาเช่าอีก 30 ปี ขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อรัฐบาลมีนโยบายชดเชยราคาพืชผลทางการเกษตร ผู้ที่อาศัยอยู่ในที่ดินนิคมฯมีปัญหาในการรับเงินค่าเยียวยาโดยตลอด นอกจากนั้นมีการกันแนวเขตบางจุดเป็นพื้นที่ สปก.ติดกับแนวภูเขาเพื่อให้สิทธิชาวบ้านเข้าทำกิน แต่หน่วยงานรัฐไม่ได้ถอนสภาพป่า ดังนั้นเอกสาร ส.ป.ก.ที่ชาวบ้านได้รับก็ไม่มีประโยชน์

“ขณะนี้มีการทำอาชีพการเกษตรกรในพื้นที่ร้อยละ 90 แต่สินค้าบางประเภทส่งออกไปขายต่างประเทศไม่ได้ เพราะที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ ทำให้มีการกีดกันทางการค้า ชาวบ้านที่รับผลกระทบจึงจะนัดรวมตัวเพื่อหารือกันในการเรียกร้องเอกสารสิทธิในวันที่ 17 กันยายนนี้ ที่สหกรณ์นิคมบางสะพาน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป หากรัฐบาลยังไม่มีความคืบหน้าเพื่อให้มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ชัดเจน ชาวบ้านจะนัดรวมตัวเพื่อยกระดับเป็นการชุมนุมปิดถนนประท้วงต่อไป” นายสันทัดกล่าว