แฟ้มข่าว

ดึงเกาหลีลงทุนไทย
เมื่อวันที่ 2 กันยายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายมุน แช อิน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ร่วมงาน “ไทยแลนด์-เกาหลี บิสสิเนส ฟอรัม : Thai-Korea Business Forum” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีหอการค้าและอุตสาหกรรมสาธารณรัฐเกาหลี (เคซีซีไอ) และคณะนักลงทุนชั้นนำจากสาธารณรัฐเกาหลีเข้าร่วมกว่า 100 บริษัท ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวปาฐกถาตอนหนึ่งว่า ประเทศเกาหลีเป็นประเทศเป้าหมายที่ไทยจะดึงดูดการค้าการลงทุน ปัจจุบันมีบริษัทเกาหลีเข้ามาลงทุนในไทยกว่า 400 บริษัท ซึ่งงานในครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่าเกาหลีให้ความสำคัญกับไทย จึงมอบหมายให้บีโอไอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้มีความร่วมมือเกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด โดยปี 2563 ไทยหวังว่าเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทย-เกาหลีขึ้นจาก 1.4-1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

ดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจวูบ
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนสิงหาคม 2562 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอยู่ที่ 48.6 ลดลงจากเดือนกรกฎาคมที่ 49.1 จากความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในภาคที่ไม่ใช่การผลิตที่ปรับตัวลดลงเป็นหลัก นำโดยภาคการค้า ทั้งกลุ่มค้าส่งและกลุ่มค้าปลีกที่มีความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อและปริมาณการค้าลดลง สะท้อนความกังวลต่อกำลังซื้อในประเทศซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ผู้ประกอบการรายงานว่าเป็นข้อจำกัดอันดับหนึ่งในการดำเนินธุรกิจ สำหรับกลุ่มก่อสร้างมีความเชื่อมั่นลดลงในด้านผลประกอบการ การบริการ และการจ้างงาน ขณะที่ผู้ประกอบการในภาคการผลิตมีความเชื่อมั่นปรับดีขึ้นบ้างในกลุ่มผลิตอาหารและเครื่องดื่มจากความเชื่อมั่น อย่างไรก็ตาม ในอีก 3 เดือนข้างหน้า (กันยายน-พฤศจิกายน 2562) ดัชนีความเชื่อมั่นทรงตัวใกล้เคียงผลสำรวจในเดือนก่อนที่ 54.0 ยังอยู่เหนือระดับ 50 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่มองว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ในระยะต่อไป

เซ็นทรัลวิลเลจเปิดตามนัด
เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น เปิดตัวหน้าโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาต์เล็ต อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยถือฤกษ์เปิดประตูห้างในเวลา 10.39 น. นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มีจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการในวันแรกประมาณ 20,000 คน มากกว่าคนเดินในช่วงปกติประมาณ 17,000 คนต่อวัน ทั้งนี้ การมีลักชูรี่ เอาต์เล็ต เกิดขึ้น จะช่วยเพิ่มรายได้หมุนเวียนในประเทศได้กว่า 20,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1 ใน 4 หรือ 25% ของยอดช้อปปิ้งของคนไทยที่สูญเสียเงินไปช้อปปิ้งต่างประเทศกว่า 80,000 ล้านบาทต่อปี โดยเซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาต์เล็ต ตั้งอยู่บนพื้นที่ 100 ไร่ มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท มีร้านค้าแบรนด์ดังกว่า 150 ร้านค้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติมารอเข้าตั้งแต่ยังไม่ถึงเวลาเปิดบริการ และหลังเปิดให้เข้ารับบริการแล้วพบว่าร้านเอาต์เล็ตแบรนด์ดังหลายร้านพร้อมใจลดราคา 30-70% เกิดการจับจ่ายอย่างคึกคัก โดยรองเท้าไนกี้ขายหมดเกลี้ยงในเวลาเพียงไม่นาน

ตั้งรับเงินลงทุนจากเทรดวอร์
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงการลงทุนใหม่ในอนาคตโดยเฉพาะการลงทุนจากประเทศหนีสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน (เทรดวอร์) ว่า สั่งให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) หาพื้นที่รองรับ อาจจัดตั้งเพิ่มเติมหรือใช้พื้นที่เดิม ซึ่งปัจจุบันมี 25 เขตและใช้วิธีเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดย กรอ.จะตั้งคณะทำงานเพื่อประสานสิทธิประโยชน์การลงทุนร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง กำหนดสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมรองรับการลงทุนต่อไป โดยกำลังพิจารณาเพิ่มสิทธิประโยชน์เขตประกอบการ ที่มีสิทธิประโยชน์ครอบคลุมน้อยกว่านิคมอุตสาหกรรม เพื่อรองรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการลงทุนในนิคมฯ นอกจากนี้ ต้องการให้ กรอ.เพิ่มจำนวนโรงงานกำจัดกากอุตสาหกรรมให้มากขึ้นจากปัจจุบันมีเพียง 2,353 แห่ง จากโรงงานทั่วประเทศ 80,000 แห่ง

มั่นใจอินเดียยังเที่ยวไทย
นายกฤษฎา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า กรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่เห็นชอบให้ใช้มาตรการฟรีวีซ่าใน 2 ประเทศหลักคือจีนและอินเดีย อาจทำให้นักท่องเที่ยวทั้ง 2 ประเทศชะลอการท่องเที่ยวหรือลดความถี่ในการมาเที่ยวไทยลง จากเดิมปีละ 1-2 ครั้ง อาจเหลือเพียง 1 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการเปิดเที่ยวบินใหม่ไปอินเดียจากสายการบินใหม่ คือวิสทาราแอร์เวย์ เริ่มให้บริการเมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา เชื่อว่าจะเป็นส่วนเสริมในการดึงดูดนักท่องเที่ยวตลาดอินเดียเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของชาวอินเดียแล้ว ซึ่งการเดินทางเข้ามาของชาวอินเดียในกลุ่มแต่งงาน ฮันนีมูน ครอบครัวและกลุ่มไมซ์ยังมีแนวโน้มเติบโต และ ททท.ในอินเดียยังร่วมมือกับกลุ่มบริษัทนำเที่ยวของอินเดียจัดโปรโมชั่นพิเศษ คาดว่าทั้งปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินทางมาไทยไม่ต่ำกว่า 1.94 ล้านคน เพิ่มขึ้น 22% สร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 8.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 25%

จีดีพีอุตฯ แค่ 0.0-1.0%
นายอิทธิชัย ยศศรี รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า สศอ.ได้ปรับคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ภาคอุตสาหกรรม และเอ็มพีไอ เหลือ 0.0-1.0% หรือค่ากลาง 0.5% จากเดิมคาดการณ์ที่ 1.5-2.5% โดยช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้จะปรับตัวเลขคาดการณ์อีกครั้ง คาดหวังว่าคาดการณ์จะดีขึ้น เพราะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าระบบแล้ว สำหรับดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือนกรกฎาคม 2562 อยู่ระดับ 100.07 ปรับลดลงเป็นเดือนที่ 2 โดยเดือนมิถุนายนอยู่ระดับ 100.78 และลดลง 3.23% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตราการใช้กำลังผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 65.68% โดยเอ็มพีไอที่ลดลงสาเหตุหลักโดนผลกระทบจากเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ชะลอตัวต่อเนื่อง จากปัญหาสงครามการค้า (เทรดวอร์)
ขณะเดียวกันปัญหาภัยแล้งในประเทศได้ส่งผลอย่างมากต่อรายได้เกษตรกรลดลง เพราะกลุ่มนี้มีประมาณ 12 ล้านคน คิดเป็น 1 ใน 3 ของแรงงานทั้งประเทศที่ 38 ล้านคน