เมื่อวานนี้ (1 กันยายน 2562) พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านและการมีส่วนร่วมกับภาคประชาชน กล่าวว่า สุดสัปดาห์นี้มีกิจกรรมรณรงค์เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 60 โดยคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ร่วมกับภาคประชาชน จัดเสวนาโต๊ะกลมที่ รร.รัตนโกสินทร์ และฝ่ายค้านเพื่อประชาชนจัดสัญจรภาคเหนือ จ.เชียงใหม่

จัดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องความจำเป็นที่ประเทศไทยต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญที่คณะนิติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ กิจกรรมดังกล่าวเป็นไปตามกระแสสังคมที่เริ่มเห็นพ้องตรงกันว่าความจริงวันนี้รัฐธรรมนูญฉบับปี 60 คือรากแก้วปมปัญหาของประเทศ มีที่มาที่อ้างว่าผ่านประชามติจากพี่น้องประชาชน แต่แท้จริงแล้วเป็นประชามติในบรรยากาศที่ไม่มีเสรีภาพและไม่เป็นธรรม

และสร้างความแปลกพิสดารทำให้เราได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อจากสูตรคิดคำนวณแบบวิปริต ที่ได้ส.ส.เปลี่ยนพรรคไปมาจำนวนเพิ่มลดกันได้ ได้ส.ว.แต่งตั้งแบบไม่รู้ที่มา แต่มีอิทธิฤทธิ์เลือกนายกฯ ที่ขัดกับเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชนได้อย่างไม่แยแส และบทสรุปเราจึงได้ตัวนายกฯ ที่มาจากการสืบทอดอำนาจนั่นเอง

ขณะนี้กลายเป็นคนที่ภูมิคุ้มกันบกพร่องปกป้องตัวเองก็ยังไม่ได้ ลามไปถึงปกป้องดูแลประชาชนไม่ได้ เลวร้ายเข้าไปอีกก็คือพรรคพวกเพื่อนพ้องน้องพี่ ตอนนี้เริ่มถอนตัวไม่ขอร่วมสังฆกรรมและปกป้องให้แล้ว เพราะต่างเห็นตรงร่วมกันว่าเขาเป็นคนที่สร้างความเสื่อมทรุดให้แก่เกียรติภูมิของบ้านเมืองอย่างที่มิเคยมีมา

พล.ท.ภราดร กล่าวอีกว่า ดังนั้นในสถานการณ์การเมืองปัจจุบันจึงได้เกิดปรากฏการณ์การเคลื่อนไหวที่มีกิจกรรมเดินควบคู่กันไป คือการผลักไสนายกฯ สืบทอดอำนาจออกจากเก้าอี้ตำแหน่งควบคู่ไปกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อไม่ให้ผู้นำสืบทอดอำนาจได้หวนกลับมาอีกอันเป็นไปตามประสงค์ของพี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตย

เชื่อว่าจุดจบของผู้นำสืบทอดอำนาจจะโดนประชาชนสั่งสอน และไม่ปล่อยให้เขาลอยนวลอย่างเด็ดขาด มันเป็นไปตามกฎแห่งกรรมที่เขาได้สร้างความทุกข์ยากให้ไว้กับบ้านเมืองนั่นเอง