เมื่อวานนี้ (1 กันยายน 2562) นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันเลวร้ายมาก ส่วนหนึ่งมาจากผลพวงการรัฐประหารที่ทำให้การค้าขายในประเทศไทยขาดความเชื่อมั่นจากคู่ค้าในต่างประเทศ ขณะเดียวกันทีมเศรษฐกิจนำโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ไม่มีฝีมือในการบริหาร และขาดวิสัยทัศน์ ไร้ความสามารถในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

จากปัจจัยดังกล่าวผู้ประกอบการได้รับผลกระทบถ้วนหน้า ล่าสุดโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งปิดตัว หรือ ย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศ มีการเลิกจ้างคนงานตามโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง หากไม่เลิกจ้างก็ไม่มีโอทีทำให้รายได้คนงานลดลงจนไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวมีคนงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่ถูกเลิกจ้างมากกว่า 40,000 คน และคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไม่เชื่อมั่นในเศรษฐกิจว่าจะดีขึ้นเมื่อไหร่ ประกอบกับนโยบายด้านเศรษฐกิจที่รัฐบาลประกาศออกมาไร้อนาคต จากปัจจัยดังกล่าวผู้ประกอบการหลายคนต้องประสบปัญหาล้มละลาย หมดเนื้อหมดตัว และหลายคนเลือกจบชีวิตมากกว่าที่อยู่อย่างลำบาก เชื่อว่าหากยังเป็นเช่นนี้สถิติการฆ่าตัวตายของประชาชนที่หมดหวังกับรัฐบาลจะเพิ่มสูงขึ้น หากรัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้หรือมีมาตรการอะไรออกมาที่ทำให้ประชาชนมีความรู้สึกเชื่อมั่นได้

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวด้วยว่า ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมารัฐบาลบริหารงานผิดพลาด และสัญญาณทางเศรษฐกิจส่งมานานแล้ว แต่รัฐบาลไม่สนใจ มุ่งหวังแก้ปัญหาทางการเมือง ไม่เร่งแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน ล่าสุดออกนโยบายแจกเงินให้กับประชาชน ตนเห็นด้วยเพราะประชาชนได้ประโยชน์ แต่มีขั้นตอนที่ซับซ้อนส่งผลให้เงินไม่ถึงมือประชาชนที่ประสบปัญหาจริงๆ แต่ไม่ช่วยให้ความเชื่อมั่นกลับคืนมา

“ตนอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาในระยะยาวฟื้นศรัทธาความเชื่อมั่นจากต่างประเทศ เพราะหากยังแก้ไม่ถูกจุดจะยิ่งซ้ำเติมประชาชน ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลต้องเร่งกอบกู้เศรษฐกิจและฟื้นความเชื่อมั่นโดยเร็ว อย่ามองว่าฝ่ายค้านโจมตีเพราะฝ่ายค้านสะท้อนความเดือดร้อนของประชาชนให้รัฐบาลฟังอย่าเหมารวมว่าเป็นเรื่องการเมือง” นางสาวธีรรัตน์ กล่าว