หลายพรรคการเมือง ร่วมแรงช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุโพดุล

วันที่ 1 กันยายน 2562 สถานการณ์พายุโพดุลที่พัดผ่านจากทะเลจีนใต้เข้าไทยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่เจอฝนตกหนักและลมพายุกำลังแรง ทำให้เกิดน้ำป่า น้ำท่วมเข้าพื้นที่ แนวกันน้ำได้รับความเสียหายจากปริมาณน้ำฝนที่ตกในปริมาณมากจนแตกพังและเข้าท่วมพื้นที่อยู่อาศัย ทำให้ประชาชนใน 19 จังหวัดภาคเหนือและอีสานได้รับผลกระทบ และพายุได้คลื่นเข้าพื้นที่ภาคใต้จนจนมีพื้นที่ได้รับผลกระทบและเกิดความเสียหาย รัฐบาลและหน่วยงานในพื้นที่ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย เช่นเดียวกันประชาชนในหลายจังหวัดทั่วไทยเริ่มรวบรวมปัจจัยเพื่อดำรงชีพในการส่งมอบให้กับประชาชน รวมถึงหลายพรรคการเมือง ก็ร่วมแรงส่งความช่วยเหลือเข้าไปในพื้นที่ประสบภัยด้วย

“สุดารัตน์” ประกาศแผน “เพื่่อไทยช่วยไทย รวมใจช่วยน้ำท่วม” ร่วมกันฝ่าวิกฤต

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กแฟนเพจในวันนี้ ประกาศแนวทางของพรรคเพื่อไทยต่อสถานการณ์ภัยพิบัติจากพายุโพดุลว่า

ผลจากพายุโพดุลทำพี่น้องให้ภาคเหนือและภาคอีสานหลายจังหวัดเผชิญกับน้ำท่วม บางจังหวัดท่วมหนักที่สุดในรอบ 40 ปี

ตอนนี้พายุยังไม่สิ้นฤทธิ์ ความเสียหายจึงยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทีมเพื่อไทยจะไม่นิ่งนอนใจ ความทุกข์ของพี่น้องรอไม่ได้ เราต้องทำงานให้เร็วกว่าปัญหา

ดิฉันจึงขอประกาศแผนการ “เพื่อไทยช่วยไทย รวมใจช่วยน้ำท่วม” เพื่อเชิญชวนพี่น้องมาจับมือร่วมกันฝ่าวิกฤติอุทกภัยของประเทศครั้งนี้ไปด้วยกัน

1. ขอประกาศให้ศูนย์ประสานงานของพรรคเพื่อไทย และศูนย์ประสานงานของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยในทุกเขต ทุกจังหวัดของประเทศ เป็นศูนย์รับบริจาคสิ่งของ และความช่วยเหลือต่างๆ จากพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ของประเทศ ซึ่งจะทำหน้าที่ขนส่งสิ่งของที่ได้รับบริจาค ไปยังศูนย์ช่วยเหลือน้ำท่วมของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ที่ประสบภัยโดยเร่งด่วน

2. ขอประกาศตั้งที่ทำการศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทยภาคอิสานที่ “ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือน้ำท่วมของภาคอีสาน” โดยให้ท่าน ส.ส.บัลลังก์ อรรณนพพร โทร 098-824-5858 เป็นผู้ประสานงานศูนย์

และตั้งศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทยภาคเหนือที่ “ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือน้ำท่วมของภาคเหนือ” โดยให้ท่าน ส.ส.จักรพล ตั้งสุทธิธรรม โทร 089-851-8558 เป็นผู้ประสานงานศูนย์

ซึ่งทั้งสองศูนย์จะเป็นศูนย์กลางที่จะกระจายความช่วยเหลือจากพี่น้องทั้งประเทศไปยังพื้นที่ภัยพิบัติต่อไป โดยทีมเพื่อไทย ทั้งในสภา และนอกสภา ให้ประสานความช่วยเหลือไปยังทั้งสองศูนย์นี้ได้โดยตรง

สำหรับส่วนกลางสามารถบริจาคได้ที่สำนักงานใหญ่พรรคเพื่อไทยถนนเพชรบุรีตัดใหม่

3. พี่น้องประชาชนที่อยากช่วยเหลือพี่น้องที่กำลังประสบภัย สามารถร่วมบริจาคข้าวสาร อาหารแห้ง เสื้อผ้า และของจำเป็น ได้โดยตรง ณ ศูนย์ประสานงานของพรรคเพื่อไทย และศูนย์ประสานงานของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยในทุกเขต ทุกจังหวัดของประเทศ

ขอเอาใจช่วยพี่น้องที่อยู่ในช่วงเวลาวิกฤติ และเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกคนที่กำลังทำงานอย่างเต็มกำลัง

ดิฉันขอสัญญาว่าพวกเราจับมือผ่านทุกข์นี้และจะไม่ทอดทิ้งกันแน่นอนค่ะ

ส.ส.อนาคตใหม่ ลงพื้นที่พิษณุโลก ช่วยผู้ประสบภัย พร้อมเก็บข้อมูลความเสียหาย เล็งดึงทุกภาคส่วนถกแผนระยะยาว

นายปดิพันธ์ สันติภาดา ส.ส.เขต 1 พรรคอนาคตใหม่ จ.พิษณุโลก นายเกษมสันต์ มีทิพย์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พร้อมทีมงานให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ อ.เนินมะปราง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วม อิทธิพลจากพายุโซนร้อนโพดุล ที่ทำให้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำจากอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลลงมาตามลำน้ำชมพู และลำน้ำเข็ก ก่อนจะมารวมกันที่แม่น้ำวังทอง อ.วังทอง ทั้งนี้เนื่องจากปริมาณที่มากและมาพร้อมกัน ประกอบกับการระบายน้ำจากแม่น้ำวังทอง สู่แม่น้ำน่าน ไม่สะดวก ทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งท่วมพื้นที่เกษตรกรรม บ้านเรือนประชาชน ขณะที่ทางหลวงหมายเลข 12 พิษณุโลก-หล่มสัก ช่วงบริเวณหน้าโรงพยาบาลวังทองน้ำท่วมสูง 30-40 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เนื่องจากมีน้ำไหลแรงตลอดเวลาเส้นทางดังกล่าวเป็นถนนสายหลักที่เชื่อมระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือตอนล่าง ทั้งนี้ ทีมอาสาสมัครกู้ภัยได้ปักหลักคอยอำนวยความสะดวกและให้คำปรึกษาประชาชนที่่ต้องใช้เส้นทางสัญจร

นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ทีมงานของพรรคอนาคตใหม่ได้สำรวจและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน 2-3 วันแล้ว โดยก่อนหน้านั้นจะนำอาหารที่ปรุงสำเร็จไปช่วยเหลือ เนื่องจากน้ำมาเร็วและแรงมาก คนในพื้นที่แทบเก็บข้าวของหนีไม่ทัน ทำได้เพียงพาตัวเองอพยพขึ้นสู่ที่สูง ดังนั้น ของที่จำเป็นก็คือน้ำดื่ม และอาหารที่รับประทานได้เลย ขณะที่ในวันนี้ บางแห่งไฟฟ้าสามารถกลับมาใช้ได้ตามปกติ ก็จะมีอาหารแห้งเข้าไปช่วยเหลือบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม ในฐานะ ส.ส.สิ่งที่จะทำหลังจากนี้คือการเก็บข้อมูลความเสียหาย เพราะน้ำท่วมครั้งนี้กินพื้นที่กว้าง ไร่ข้าวโพด นาข้าว แทบจะเสียหาย100 % ตั้งใจว่าจะให้ทางทีมงานมาเก็บข้อมูล เพื่อเตรียมไปหารือกับผู้เกี่ยวข้องหรือกับสภาผู้แทนราษฎร ให้หน่วยงานต่างๆ ได้ทำหน้าที่ช่วยหลืออย่างครอบคลุมและครบถ้วนต่อไป

อย่างไรก็ตาม นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพูดคุยกันถึงเรื่องแผนการรับมือในอนาคต โดยเฉพาะการศึกษาเรื่องความเหมาะสม จากกรณีที่ชาวบ้านเรียกร้องให้มีการสร้างอ่างเก็บน้ำลำน้ำเข็ก รวมถึงปัญหาของแม่น้ำวังทองที่จะระบายน้ำสู่แม่น้ำน่านก็ต้องไปดูว่าติดขัดอะไรทำไมถึงระบายได้ช้า จนทำให้เกิดน้ำท่วม อ.วังทอง เป็นวงกว้าง ต้องดึงทุกภาคส่วนมาร่วมพูดคุยเตรียมแผนรับไม่ให้เกิดซ้ำ

“อนุทิน” ขนทีมแพทย์-คุมโรค ลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบภัยในร้อยเอ็ด

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากพายุ “โพดุล” ที่จุดพักพิงผู้ประสบภัยน้ำท่วม วัดบ้านนาแซง/บ้านท่าเยี่ยม/บ้านไค่นุ่น อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด พร้อมเดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ รพ.สต.บ้านไค่นุ่น และให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มาในนามตัวแทนรัฐบาล ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงเป็นใยพี่น้องตลอดเวลาที่ใดมีความทุกข์ยากมีอุบัติภัยทั้งหลายก็จะต้องมีตัวแทนจากรัฐบาลเข้ามาดูแลอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้ได้มากที่สุด ได้สั่งการตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นให้มาลงพื้นที่ในจังหวัดร้อยเอ็ดว่าต้องเฝ้าระวังขั้นวิกฤต แต่วันนี้ฟ้าฝนเป็นใจ และทราบว่าพายุโพดุลได้เคลื่อนตัวผ่านไปแล้วท้องฟ้าค่อนข้างแจ่มใส

“วันนี้ผมมาในนามตัวแทนรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขมาดูแลเรื่องสุขภาพ โรคติดต่อและการเข้าถึงยาของประชาชนเวลามีน้ำท่วมก็จะเกิดอุบัติเหตุมีบาดแผลและโรคติดต่อรวมไปถึงความสะอาด เรื่องอนามัยต้องเตรียมยาให้พร้อม และช่วงหลังน้ำลด จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือในเรื่องโรคติดต่อ โดยเฉพาะโรคเท้าเปื่อย โรคเท้าเน่า ในวันนี้เราได้เตรียมยามาให้ประชาชนอย่างเพียงพอทั้งชุดยังชีพ ยาชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย ยารักษาน้ำกัดเท้า เสื้อชูชีพ และหน้ากากอนามัย” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ต่อจากนี้รัฐบาลจะต้องคิดหาวิธีจะทำอย่างไร ในเมื่อน้ำมาแล้วจะทำให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด เพราะเมื่อ 2-3 อาทิตย์ที่แล้ว ยังเจอภัยแล้งอยู่เลย ในเมื่อน้ำมาแล้วก็อย่าปล่อยให้หายไปไหน วันนี้ท่านปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและท่านผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดมีเทคนิคโดยการกักเก็บน้ำทำเป็นธนาคารน้ำอัดน้ำลงไปในใต้ดินและวิธีการผันน้ำ ลงไปสู่อ่างเก็บน้ำในแม่น้ำที่สามารถเรียกมาใช้ได้ตลอดเวลา เป็นสิ่งที่เราจะใช้วิกฤตนี้ให้เป็นโอกาสที่จะทำให้พัฒนาความสามารถในการกักเก็บน้ำได้มากขึ้น

สำหรับจังหวัดร้อยเอ็ด มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 3 อำเภอ คือ อ.เสลภูมิ อ.โพนทอง และ อ.เมยวดี มีสถานบริการได้รับผลกระทบ 3 แห่ง ได้แก่ รพ.สต.บ้านกกทัน รพ.สต.บ้านนาวี และรพ.สต.บ้านไค่นุ่น โดยได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการ 6 จุด ผู้มารับบริการส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคน้ำกัดเท้า ไข้หวัด ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อผื่นคัน ยังไม่มีรายงานโรคระบาด พร้อมส่งทีมหมอครอบครัวร่วมกับ อสม.ออกเยี่ยมให้กำลังใจ แจกยาสามัญประจำบ้าน แจกถุงขยะ ให้ความรู้เรื่องการคัดแยกขยะช่วงน้ำท่วม เยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดบ้านเพื่อดูแลสุขภาพพร้อมทั้งให้กำลังใจผู้ป่วยและญาติ รวมทั้งประเมินภาวะซึมเศร้าของประชาชน ที่ศูนย์พักพิงศาลาประชาคมบ้านน้อยสามัคคี/ ศาลาวัดบ้านนาแซง และให้การดูแลเด็ก ผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ที่เสี่ยงต่ออุทกภัยทางน้ำ ที่เทศบาลตำบลวังหลวง

ทั้งนี้ ได้ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอ ติดตาม สถานการณ์ น้ำท่วม ผลกระทบและการเตรียมความพร้อมทางด้านสาธารณสุขในการดูแลสุขภาพ ประชาชน ในจังหวัดของเขตสุขภาพที่ 7สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแจ้งเตือนให้โรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยงเกิดอุทกภัยจากการระบายน้ำของเขื่อนต่าง ๆ