“ช่อ” ชี้ อับดุลเลาะไม่ใช่คนแรก และจะไม่ใช่คนสุดท้าย ที่ออกจากค่ายทหารในสภาพโคม่า

เมื่อวันที่ 26 ส.ค. น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ และส.ส.ของพรรค โพสต์แสดงความเห็นหลังการเสียชีวิตของ อับดุลเลาะ อีซอมูซอ หลังทหารใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก ควบคุมตัวเขาเข้าค่ายทหารก่อนเกิดการบาดเจ็บ ต้องเข้าโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิต โดยระบุว่า

1 เดือน 4 วัน ที่อับดุลเลาะ อีซอมูซอ ตกอยู่ในสภาพโคม่า หลังทหารใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก ควบคุมตัวเขาเข้าค่ายทหารโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการยุติธรรม

กว่า 1 เดือนที่ญาติของอับดุลเลาะทวงถามความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นในค่าย เขาจึงออกมาในสภาพสมองบวมจากการขาดออกซิเจน กว่า 1 เดือนที่หลายหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชน ทวงถามคำอธิบายจากกองทัพและรัฐบาล ที่น่าเชื่อถือกว่า “ล้มในห้องน้ำ”

จนวันนี้ อับดุลเลาะจากไปแล้ว ความจริงยังไม่ปรากฏ ความเป็นธรรมยังไม่ถูกหยิบยื่นให้กับผู้เสียชีวิตและครอบครัวของเขา

อับดุลเลาะไม่ใช่คนแรก และจะไม่ใช่คนสุดท้าย ที่กลับออกจากการควบคุมตัวของทหารในสภาพโคม่า พิการ หรือเสียชีวิต โดยไร้คำอธิบายใดๆ นอกจาก “อุบัติเหตุ”

ความยุติธรรมที่ล่าช้า เรียกได้ว่าคืออยุติธรรม

การล่าช้าในการหาตัวผู้รับผิดชอบ คือการส่งเสริมวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวล

กระบวนการควบคุมตัวประชาชนที่ไม่โปร่งใสในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การใช้กฎหมายพิเศษที่ให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐล้นเกิน มีแต่จะสร้างความบาดหมางร้าวลึกในพื้นที่ ซ้ำเติมปัญหาที่สะสมเรื้อรังมาหลายสิบปีให้รุนแรงขึ้น รัฐบาลต้องมีคำตอบให้สังคมไทย ให้ครอบครัวอีซอมูซอ คืนความยุติธรรมให้กับประชาชน

พิสูจน์ให้เราเห็นว่ากฎหมายมีไว้คุ้มครอง ไม่ใช่กดขี่ประชาชน

พิสูจน์ว่ารัฐเป็นผู้รับใช้ ไม่ใช่เจ้านายประชาชน