‘ศาลปกครองกลาง’ สั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ศาลปกครอง ถนนเเจ้งวัฒนะ ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำขอของกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)ที่ขอให้ศาลปกครองพิจารณาคดีใหม่ หลังศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้กระทรวงคมนาคมและ รฟท.จ่าย12,000 ล้านบาท แก่บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อชดเชยการบอกเลิกสัญญาตามคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ

โดยในการยื่นร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ดังกล่าว กระทรวงคมนาคมและ รฟท. อ้างว่า ศาลปกครองสูงสุดรับฟังข้อเท็จจริงผิดพลาด และมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐาน “กรณีโฮปเวลล์” ซึ่งหากได้พยานหลักฐานใหม่จะนำเสนอศาลปกครองสูงสุดต่อไป ทั้งโต้แย้งเรื่องความสามารถในการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในประเทศของผู้คัดค้านในขณะเข้าทำสัญญาพิพาท รวมทั้งอ้างว่า การที่ศาลปกครองสูงสุดมิได้ย้อนสำนวนให้ศาลปกครองชั้นต้นวินิจฉัยในประเด็นเนื้อหาแห่งคดี ถือว่า เป็นข้อบกพร่องในกระบวนการยุติธรรม

ศาลปกครองปกครองให้เหตุผลไม่รับคำขอว่า คดีนี้ ศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยแล้วว่า คดีมีข้อเท็จจริงเพียงพอที่ศาลปกครองสูงสุดจะพิจารณาพิพากษาชี้ขาดคดีต่อไปได้ เพื่อประโยชน์แก่การพิจารณาพิพากษาคดี จึงไม่ถือว่ามีข้อบกพร่องสำคัญในกระบวนพิจารณาพิพากษาที่ทำให้ผลของคดีไม่มีความยุติธรรม ส่วนข้อโต้แย้งเรื่องความสามารถของผู้คัดค้านในขณะเข้าทำสัญญาว่าเป็นการดำเนินการของคนต่างด้าวนั้น เอกสารหลักฐานดังกล่าวมิได้เป็นพยานหลักฐานที่ปรากฏขึ้นใหม่ อันมีผลทำให้ข้อเท็จจริงที่ฟังยุติแล้วเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ ทั้งในขณะที่ยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่นี้ผู้ร้องทั้งสองไม่มีพยานหลักฐานที่จะนำเสนอต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งเป็นพยานหลักฐานใหม่อันมีผลทำให้ข้อเท็จจริงที่ฟังยุติแล้วเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ คำขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 จึงมีคำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณา

ทั้งนี้ เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุด ได้พิพากษากลับคำพิพากษาศาลปกครองกลางให้บังคับคดีโฮปเวลล์ ชนะคดีตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการให้ภาครัฐจ่าย รวม 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี พร้อมคืนหนังสือค้ำประกันมูลค่า 500 ล้านบาท ที่ออกโดยธนาคารกรุงเทพ ซึ่งประกอบด้วยเงินที่บริษัทได้ชำระเป็นค่าตอบแทนจากการใช้ประโยชน์จากที่ดินของ รฟท. ถึงก่อนวันบอกเลิกสัญญาเป็นเงิน 2,850 ล้านบาท รวมถึงเงินค่าออกหนังสือค้ำประกัน 38 ล้านบาท และเงินค่าก่อสร้าง 9,000 ล้านบาท โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วันนับคดีถึงที่สุด