“เด็กชวน” แท็กทีมโต้ “เสรีพิศุทธิ์” ไล่ไปอ่านรธน. แยกความต่าง “ลงชื่อเข้าประชุม-ลงมติ”

“เด็กชวน” แท็กทีมโต้ “เสรีพิศุทธิ์” ไล่ไปอ่านรัฐธรรมนูญ แยกความต่าง “ลงชื่อเข้าประชุม-ลงมติ” ยัน “ชวน” เป็นกลาง-ทำหน้าที่ถูกต้อง จี้หยุดใช้สภาเล่นการเมือง

วันที่ 21 สิงหาคม ที่รัฐสภา เกียกกาย นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษานายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร และ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ร่วมแถลงข่าวตอบโต้กรณีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เรียกร้องให้นายชวนลาออกจากตำแหน่งประธานสภา

โดยนพ.สุกิจกล่าวว่า นายชวนเป็นผู้ที่เคารพกฎหมาย และพร้อมให้มีการตรวจสอบ การที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์มาแถลงก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่คำแถลงนั้นไม่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง จึงขอชี้แจงในประเด็นที่ท่านเข้าใจผิดหรือแกล้งเข้าใจผิดอยู่ เพราะเรื่องนี้พูดกันมาหลายครั้งแล้ว กล่าวคือ ประเด็นที่อ้างถึงการประชุมร่วมของรัฐสภา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ในการพิจารณาบุคคลซึ่งสมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยได้กล่าวหาว่านายชวนไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนในรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการคิดเอาเองว่าในการพิจารณาต้องผ่านที่ประชุมส.ส.ก่อน จึงจะเข้าสู่ที่ประชุมร่วมรัฐสภาได้ โดยอ้างรัฐธรรมนูญมาตรา 159 วรรค 2 ซึ่งตนขอชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง นายชวนได้ปฏิบัติตามขั้นตอนทุกประการ โดยเฉพาะมาตรา 272 ในบทเฉพาะกาล ที่กำหนดไว้ว่าในระหว่าง 5 ปีแรก นับตั้งแต่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ การพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ให้กระทำในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ซึ่งคำว่า “การพิจารณาให้ความเห็นชอบ” เริ่มตั้งแต่การเสนอชื่อ การรับรอง การลงมติ ทุกขั้นตอนรวมอยู่ตรงนี้ ส่วนที่ท่านอ้างมาตรา 159 วรรค 2 ว่าการเสนอชื่อต้องมีสมาชิกรับรองไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร เป็นการเข้าใจผิดว่าต้องเป็นการประชุมส.ส.โดยเฉพาะ แต่ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น เพราะในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาก็สามารถให้มีการรับรองของส.ส.ได้ และในวันนั้นเมื่อมีการเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็มีผู้รับรองถูกต้อง

“การที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ระบุว่าได้ส่งเรื่องนี้ให้กับผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว ตามมารยาทก็ควรจะหยุดพูด หยุดวิจารณ์เรื่องนี้ เพื่อให้หน่วยงานที่ท่านส่งเรื่องไป ได้พิจารณาหาเหตุผลด้วยความถูกต้อง ไม่เบี่ยงเบนไปตามคำพูดของท่าน” นพ.สุกิจกล่าว

ด้านนายสมบูรณ์ กล่าวว่า การที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์บอกว่าการปฏิบัติหน้าที่ของนายชวนทำผิดข้อบังคับ เช่นมีการลงมติมากกว่าจำนวนผู้ลงชื่อเข้าร่วมประชุม ตนต้องเรียนว่าตามข้อบังคับและรัฐธรรมนูญ ได้ให้คำจำกัดความขององค์ประชุมไว้ชัดเจน คือบังคับว่าต้องมีสมาชิกเข้าประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งจึงจะเปิดการประชุมได้ แต่ถ้าช่วงใดมีการลงมติ ประธานจะมีการตรวจสอบองค์ประชุม กล่าวคือมีผู้แสดงตนในที่ประชุมอยู่เท่าไหร่ ซี่งในขณะที่มีการเซ็นชื่ออาจไม่ตรงกับสมาชิกที่อยู่ในห้องประชุม เช่น ในการเปิดประชุมอาจมีสมาชิกมาลงชื่อ 500 คน ประธานเปิดประชุมได้ แต่ในขณะที่กำลังมีการลงมติ กลายเป็นมีสมาชิกในห้องประชุมไม่ถึงครึ่งหนึ่ง ดังนั้น เขาไม่ได้ไปดูที่การลงชื่อ แต่ดูว่าที่ประชุมมีสมาชิกอยู่เท่าไหร่

“ขอให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไปเข้าใจความแตกต่างระหว่างการลงชื่อเข้าประชุมกับการลงมติ นายชวนเป็นนักการเมืองมา 50 ปี เป็นประธานสภา 2 สมัย เราเชื่อในความเป็นกลางของท่าน วันนี้สภาของเรามีองค์ประกอบครบและกำลังเดินหน้า ขอให้ท่านร่วมกันสร้างสภาให้เป็นสภาของประชาชน อย่าใช้สภาเป็นที่เล่นการเมือง” นายสมบูรณ์ กล่าว