‘ทวี’ ชี้ อีอีซี เอื้อนายทุน ฉะรัฐบาลทำลายชาวบ้าน ทุ่มหมื่นล้านให้เอกชน

เมื่อวานนี้ ( 21 สิงหาคม 2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า โครงการในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี กับกระแสต่อต้านว่าเป็นการทำลายพื้นที่เกษตรและพื้นที่ต้นน้ำ

หลายโครงการใน อีอีซี อาทิ โครงการนิคมอุตสาหกรรมบลูเทค ซิตี้ ฉะเชิงเทรา ที่ตั้งเป้าดึงนักลงทุนรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ หุ่นยนต์ แสนล้าน ซึ่งคาดว่าผังเมืองฉบับใหม่จะประกาศได้ในเดือน ส.ค.นี้ และถ้าปรับเป็นผังสีม่วงแล้วก็จะเริ่มทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โดยคาดว่าจะเสร็จในเดือน ก.ย.-ต.ค. จากนั้นจะเริ่มงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทันที

โครงการดังกล่าวเป็นประเด็นขัดแย้ง แม้ภาครัฐเร่งประชาสัมพันธ์ว่าไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ชุมชน ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา รวมถึงนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมได้ออกมาคัดค้าน เพราะจะถูกเปลี่ยนจากที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม เป็นที่ดินประเภทพัฒนาอุตสาหกรรม เพื่อประโยชน์ของนายทุนและต่างชาติอย่างมากมายมหาศาล รวมถึงพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ต้นน้ำที่มีความเสี่ยงด้านปริมาณน้ำคุณภาพน้ำ และความสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์

ที่ผ่านมาได้มีกลุ่มผู้เดือดร้อนจากโครงการอีอีซีในพื้นที่ดังกล่าวใช้ชื่อ เครือข่ายเพื่อนตะวันออกฯ ได้รวมตัวกันนำปูจากแม่น้ำบางปะกงประมาณ 30 ตัวมาปล่อยที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์ และประเด็นที่สำคัญ คือ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้ระบุไว้ในรายงานอย่างชัดเจนว่าในปี 2560 ตัวเลขส่งออกปี 2560 ที่มีมูลค่ารวมเท่ากับ 7.9 ล้านล้านบาท แยกเป็นตัวเลขของภาคการเกษตร เท่ากับ 1.35 ล้านล้านบาท แต่ไทยขาดดุลการค้านอกภาคการเกษตร 431,566 ล้านบาท และได้ดุลการค้าจากภาคเกษตร 857,713 ล้านบาท หรือ เท่ากับว่าภาคการเกษตรเป็นผู้สร้างความได้เปรียบดุลการค้าของประเทศและไม่ใช่ภาคอุตสาหกรรมการผลิต

ขอนำความเห็นของ คุณสมลักษณ์ หุตานุวัตร นักต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมและเคลื่อนไหวทางสังคม เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2562 ที่ร่วมเสวนา ณ พื้นที่ชุมชน ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ที่กล่าวไว้ว่า พวกเขาหากินอยู่ดีๆ รายได้วันละ 600-2,000 บาท คุณให้เขาไปอยู่ในโรงงานได้ค่าแรงขั้นต่ำ 300-400 บาท คนที่นี่มีรายได้มากกว่าในโรงงานตั้งเยอะ แล้วเขาไม่ต้องเสี่ยงกับสารพิษ เขามีพระคุณ ในการผลิตอาหารสะอาดให้พวกเรากิน แต่คุณไปทำลายเขาทั้งหมด

สมลักษณ์ กล่าวต่อว่า คนที่เป็นเครื่องมือที่เลวร้ายที่สุด คือ ครม.น้อย 16 คน ในบรรดา ครม. 20-30 คน เป็นคณะกรรมอีอีซี แล้วพิจารณาทุกอย่าง ออกกฎหมายกว่า 33 ฉบับ อนุมัติเงินหมื่นล้านให้บริษัทเอกชนพัฒนาบุคลากร แล้วทำไมไม่อนุมัติให้ชาวบ้านเหล่านี้พัฒนาตัวเอง เปิดช็อปออนไลน์ขายของทะเล ส่งเดลิเวอรี่ไปถึงทุกครัวเรือน เขาจะได้รายได้เต็มๆ ทำไมพวกเขาไม่มีสิทธิ์ใช้เงินภาษีของเราในการพัฒนาอาชีพของเขา ทำไมไปพัฒนาแต่คนที่ทำความสกปรกให้แผ่นดิน

สมลักษณ์ กล่าวอีกว่า การพัฒนาเขตอีอีซี เราคิดว่าคุณกำลังฆ่าคนไทย และฆ่าตัวตาย รวมถึงฆ่ารัฐบาลชุดนี้ด้วย ทุกคนพูดเป็น เขียนเป็น อ่านหนังสือได้ เขาสู้กันมาเป็น 10 ปีในทุกเรื่อง ทุกพื้นที่ตอนนี้ รัฐบาลกำลังสร้างนักต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นประเด็นอีอีซี ประเด็นเหมืองแร่ และการทำลายทรัพยากรอื่นๆ คุณกำลังสร้างนักต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ที่เป็นคนตัวเล็กตัวน้อย แล้วคุณสร้างเขาทุกวัน

“บทพิสูจน์ของฮ่องกงบอกว่า จีดีพีเจริญ คนกินอิ่ม แต่ไม่พอใจ ฉะนั้น ไม่ใช่คุณทำให้เขามีเงินเยอะๆ แล้วจีดีพีสูงๆ แล้วคนจะพอใจ แต่เขาพอใจชีวิตง่ายๆ หาเงินได้ทุกวัน วันละ 600 บาท ถามว่าโรงงานที่ไหนจะรับคุณตาคุณยายเหล่านี้ไปทำงาน แม้จะไม่รับ แต่เขาอยู่ได้ แล้วรัฐบาลไม่เป็นภาระ ไม่ต้องไปรับเงินผู้สูงอายุ เขาอยู่ได้ แต่อย่าไปทำลายเขา” สมลักษณ์กล่าว