วันที่ 21 สิงหาคม 2562 เว็บไซต์ข่าวนิวส์วีคของสหรัฐฯได้เปิดเผยเบื้องหลังการลาออกของนายรูเพิร์ต ฮอค อดีตซีอีโอคาเธย์ แปซิฟิก สายการบินชื่อดังของฮ่องกง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า สาเหตุมาจากผลของการปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่งจีนในการเปิดเผยชื่อพนักงานของสายการบินว่ามีคนใดมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนการประท้วงเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม หลังจากผู้ชุมนุมคนเสื้อดำที่เคลื่อนไหวถอดถอนกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนจนนำไปสู่ข้อเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารสูงสุดของเกาะฮ่องกงลาออก ออกข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ซึ่งรวมถึงการสไตร์คงาน ซึ่งส่งผลทำให้สายการบินหยุดการให้บริการในช่วงที่ผู้ชุมนุมมาชุมนุมภายในอาคารผู้โดยสารสนามบินนานาชาติฮ่องกง จนล่าสุด การประท้วงในฮ่องกงกินเวลามา 3 เดือนแล้ว

โดยกรมกิจการการบินพลเรือนของจีนได้สั่งการเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ให้สายการบินคาเธย์ แปซิฟิกส่งรายชื่อพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการประท้วง และยังสั่งให้นายฮอคเลิกจ้างพนักงานเหล่านั้น นายฮอคปฏิบัติตามคำสั่งโดยส่งชื่อพนักงานดังกล่าว แต่ระบุเพียงชื่อเดียวนั้นคือ นายฮอค

การลาออกจากของนายฮอคนั้นมีคนเชื่อว่ามาจากแรงกดดันของรัฐบาลจีน โดยข่าวการลาออกถูกประกาศโดยสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีน 30 นาทีก่อนที่ทางสายการบินจะแจ้งข่าวการลาออกของนายฮอค แต่การลาออกจากของนายฮอค ได้รับเสียงชื่นชมเป็นวงกว้างจากผู้สนับสนันผู้ประท้วงในฮ่องกง โดยนายหวัง ติ้ง หยู ส.ส.พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าของไต้หวันได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเรียกนายฮอคว่าเป็นวีรบุรุษ จากการแสดงความรับผิดชอบและไม่ขายเพื่อนร่วมงาน โปรดจดจำชื่อของสุภาพบุรุษท่านนี้ นายรูเพิร์ต ฮอค

ทั้งนี้ ตามรายงานของอินเตอร์เนชั่นแนล บิสิเนส ไทม์สระบุว่า จีนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ของคาเธย์ แปซิฟิก