‘สมพงษ์’ รับตำแหน่ง ผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมตั้งคณะทำงาน เชื่อส.ส.สุรินทร์ แค่พูดเอาใจนายกฯ

‘สมพงษ์’ รับตำแหน่ง ผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมตั้งคณะทำงาน คงระดับความเข้มข้นการทำงาน ชี้ ยันฝ่ายค้านเข้าใจกัน-พูดคุยกันแล้วเรื่องการปฏิบัติตัว ชี้ 3 ส.ส.สุรินทร์ รับ “ประยุทธ์” เพื่อให้ได้งบฯ

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการโปรดเกล้าฯ รับตำแหน่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านว่า บทบาทผู้นำฝ่ายค้านตามข้อเท็จจริงแล้ว ไม่ใช่ว่าเราจะทำงานเป็นฝ่ายค้านของพรรคพท. เท่านั้น แต่จะทำงานร่วมกันกับพรรคร่วมเพื่อให้มีศักยภาพสูงสุด อย่างไรก็ตามข้อมูลต่างๆ ก็ต้องช่วยกันสรรหา ส่วนความเข้มข้นในการทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านนั้น การทำหน้าที่ในการอภิปรายในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน จะไม่มีกำหนดเวลา อย่างครั้งที่แล้วที่อภิปรายเรื่องนโยบายรัฐบาลก็ใช้เวลาเกินไป 20 นาที แต่ก็ยังขาดอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้พูด ครั้งนี้จะมีการปรับปรุงการทำงานเพิ่มเติม หลังจากที่โปรดเกล้าฯ ตนก็จะออกคำสั่งให้ตั้งเป็นคณะทำงาน ขณะนี้วางตำแหน่งไว้ 4 ท่าน คือ ที่ปรึกษา เลขาฯ ผู้ช่วยเลขาฯ และโฆษกผู้นำฝ่ายค้าน

เมื่อถามถึงเรื่องการยื่นญัตติขออภิปรายทั่วไปเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้าน นายสมพงษ์ กล่าวว่า เราได้ยื่นญัตติไปแล้ว รอเข้าสู่กระบวนการทางสภาฯ และขึ้นอยู่ว่าคนที่จะมาตอบคำถามมาหรือไม่ และเป็นหน้าที่ของประธานสภาฯ ว่าจะกำหนดให้เมื่อไหร่ ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นทุกพรรคกำลังดำเนินการอยู่ อยู่ที่ว่าจะยื่นแก้ไขทั้งฉบับ หรือแก้ไขเป็นรายมาตรา

ส่วนเรื่องที่มีกระแสข่าวว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะไปร่วมกับรัฐบาล นายสมพงษ์ กล่าวว่า ตนก็ได้ยินข่าวมา แต่ไม่เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะพรรคร่วมฝ่ายค้านมีความเข้าใจกันเป็นอย่างดี ว่าการย้ายจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งผลเสียมันอยู่ที่การปฏิบัติของตัวเอง รัฐมนตรีเขาก็แบ่งตำแหน่งกันไปแล้ว จะเข้าไปเป็นไม้ประดับมันก็ไม่ควร เมื่อวานได้พูดคุยกันกับพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคว่าต่อไปนี้ขอร้องเรื่องการปฏิบัติตัว เพราะระยะทางมันเดินเข้ามาแล้ว ยังอีกอีกหลายก๊อก ทั้งพ.ร.บ.งบประมาณแผ่นดิน และการประเมินการทำงานของรัฐบาลนี้ คือหากยังทำงานเหมือน 5 ปีที่ผ่านมา เราก็ต้องเปิดอภิปราย

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม นายตี๋ใหญ่ พูนศรีธนากูล และ นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ส.ส.สุรินทร์ พท. ไปต้อนรับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีนั้น นายสมพงษ์ กล่าวว่า ในข้อเท็จจริงผู้แทนฝ่ายค้าน ก็คงพูดเอาใจพล.อ.ประยุทธ์ เพื่อของบประมาณ เช่น ขอไป 500 แล้วเขาให้มา พันกว่า ก็ไม่เป็นไร นิดๆ หน่อยๆ แต่เขาไม่ได้ไปซูฮกนายกฯ ส่วนคำพูดก็ควรต้องปรามกันเพื่อไม่ให้ทำเกินขอบเขต แต่สถานการณ์นั้นมันเป็นเพราะ กลอนพาไป

เมื่อถามว่า จะมีผลต่อฐานคะแนนเสียงพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสมพงษ์ กล่าวว่า เขาคงต้องไปชี้แจงให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เข้าใจ เพราะเขาก็ลงพื้นที่อยู่เสมอ และคงเอาข้อดีเรื่องได้งบมาฯ ส่วนการที่พูดแล้วไปตรงกันข้ามกับสิ่งที่พรรคร่วมฝ่ายค้านดำเนินการนั้น ก็ต้องมองถึงความเหมาะสม จะไปสั่งให้ไปซ้ายหรือขวาไม่ได้ แต่ครั้งนี้เป็นการพูดเพื่อให้ได้งบฯมาจากส่วนกลาง การไปต้อนรับนายกฯ สามารถทำได้ อยากทำอะไรก็ทำ 5 ปีที่ผ่านมา ไม่มีหรอกที่ประชาชนจะได้สิ่งต่างๆ จากรัฐบาลแบบนี้ เมื่อมีผู้แทนคอยทำหน้าที่นี้ให้ในสภา ก็เป็นเรื่องหน้าที่ที่ผู้แทนประชาชนควรทำ