‘รมช.เกษตรฯ’เปิดประชุมวิชาการกรมพัฒนาที่ดิน ปี’62 มอบนโยบาย 5 ข้อสานต่อโครงการพระราชดำริ -พัฒนาแหล่งน้ำ

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมเดอะกรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการกรมพัฒนาที่ดิน ปี 2562 “ฟื้นฟูปฐพี ด้วยเทคโนโลยีพัฒนาที่ดิน” พร้อมมอบนโยบายเพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานของกรมพัฒนาที่ดิน โดยมีน.ส.เบญจพร ชาครานนท์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน และผู้บริหารกรมพัฒนาที่ดิน และข้าราชการร่วมรับฟังแนวทางนโยบาย เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ เป็นกระทรวงที่ต้องตอบโจทย์ให้กับเกษตรกร เป็นกระทรวงที่สำคัญ เพราะประชาชนกว่า 70% ทำอาชีพเกษตรกรรม กรมพัฒนาที่ดินจึงมีความสำคัญไม่น้อยกว่ากรมชลประทาน อยากฝากในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต ต้องนำนโยบายฯ ไปเสนอให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบและนำไปปฏิบัติเพื่อดูแลเกษตรกรในพื้นที่ของตน สำหรับนโยบายที่จะมอบหมายให้ผู้บริหารกรมพัฒนาที่ดิน ดำเนินการ ดังนี้ 1. การป้องกันและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันพระมหากษัตริย์มีความสำคัญยิ่งต่อประเทศและประชาชนชาวไทย รัฐบาลถือเป็นหน้าที่สำคัญที่จะเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์และปกป้องรักษาพระบรมเดชานุภาพด้วยความจงรักภักดี สืบสาน รักษา ต่อยอดศาสตร์พระราชา และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นหลักสำคัญในการทำงาน สร้างความตระหนักรู้ เผยแพร่ และปลูกฝังให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง และเป็นจริงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชน ตลอดจนพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า 2.ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่เหมาะสม และไม่ก่อให้เกิดภาวะทางการเงินการคลังของภาครัฐ มอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดิน บูรณาการร่วมกันกับองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จัดทำโครงการปุ๋ยสั่งตัด เพื่อจำหน่ายให้เกษตรกรในราคาถูก ซึ่งต่ำกว่าราคาปุ๋ยที่จำหน่ายในท้องตลาดปัจจุบัน เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้กับเกษตรกร โดยปุ๋ยสั่งตัด ต้องมีสูตรที่เหมาะสมกับการปลูกพืชแต่ละชนิด และแตกต่างกันตามคุณภาพของดินในแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีสภาพภูมิอากาศ ภูมิประเทศที่แตกต่างกัน เพื่อลดต้นทุนให้กับเกษตรกรตามนโยบายของรัฐบาล 3. ส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร กรมพัฒนาที่ดินต้องให้ความรู้และส่งเสริมให้เกษตร ลด ละ เลิก การใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายโดยเร็ว ศึกษาวิจัยการใช้สารทดแทนสารเคมี ส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรให้ผลิตสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าสูง และมีโอกาสทางเศรษฐกิจ อาทิ เกษตรอินทรีย์ เกษตรปลอดภัย เกษตรชีวภาพ และเกษตรแปรรูป ต่อยอดไปสู่เกษตรอุตสาหกรรม ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรให้ได้คุณภาพมาตรฐานและมีความปลอดภัย

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า 4. แหล่งน้ำชุมชน ให้มีระบบจัดการน้ำชุมชนที่เหมาะสม พร้อมทั้งส่งเสริม ฟื้นฟู อนุรักษ์ พื้นที่ต้นน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำ พื้นที่พักน้ำ แหล่งน้ำธรรมชาติ น้ำบาดาล และส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมบริหารจัดการน้ำในชุมชน ตามแนวพระราชดำริ มอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดิน พัฒนาแหล่งน้ำให้เกษตรกร โดยเฉพาะแหล่งน้ำในไร่นา ซึ่งเกษตรกรมีส่วนร่วมในการสมทบค่าใช้จ่ายบ่อละ 2,500 บาท จากแหล่งน้ำนี้ เกษตรกรจะสามารถบริหารจัดการเพาะปลูกได้ด้วยตนเอง และ 5. การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรม โดยจัดพื้นที่การเกษตร ให้สอดคล้องกับระบบบริหารจัดการและคุณภาพของดินตาม Agri-Map ให้กรมพัฒนาที่ดินเป็นเจ้าภาพหลักในการใช้ Agri-Map ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาการเกษตร กำหนดพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจที่เหมาะสม ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ใช้ตลาดนำการผลิต ทั้งนี้จะทำให้เชื่อมั่นว่า กรมพัฒนาที่ดินจะเป็นหน่วยงานหนึ่งของกระทรวงเกษตรฯ ที่มีความสำคัญยิ่งในการกำหนดเขตความเหมาะสมของพืชเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นต้นทางของการกำหนดปริมาณการผลิตตามนโยบายของกระทรวงตลาดนำการเกษตร