‘ถาวร’สั่ง’บินไทย’ทบทวนแผนจัดหาเครื่องบินใหม่ 38 ลำ ต้องแจงให้ละเอียดก่อนชงครม.

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ได้หารือกับนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่(ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด และผู้บริหารระดับรองกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายช่าง ฝ่ายพาณิชย์ และทางครัวการบินไทย โดยได้สอบถามเรื่องการจัดหาเครื่องบินมาให้บริการ โดยทางการบินไทยได้ให้ข้อมูลว่า ในปี 2554 คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้อนุมัติให้มีการจัดเครื่องบิน 75 ลำ โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้ว 37 ลำ ในรอบนี้จึงเป็นการจัดหาเพิ่มเติมอีก 38 ลำที่เหลืออยู่ แต่ทราบมาว่าเคยมีผลการศึกษาคราวที่แล้วบอกว่าให้ซื้อ 25 ลำ แต่อยู่ๆก็มา 38 ลำ ก็เลยตั้งคำถามว่า ฝ่ายวางแผนและการตลาดศึกษาแล้วต้องการเพียง 25 ลำ

นายถาวรกล่าวว่า ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวเคยส่งเรื่องให้สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติตรวจสอบ ซึ่งภายหลังสภาพัฒน์ฯตรวจสอบแล้ว ได้ส่งกลับไปยังการบินไทยโดยมีข้อสงสัยแหล่งเงินทุน ทางคณะกรรมการ(บอร์ด)การบินไทยได้ให้ฝ่ายวางแผนจัดทำใหม่ โดยได้เพิ่มเครื่องบินเป็น 38 ลำ บอร์ดอ้างเหตุผลว่าเคยมีมติ ครม.ให้ซื้อ 75 ลำ และซื้อเพียง 37 ลำ เลยเหลืออีก 38 ลำยังไม่ได้ซื้อ ถือว่า ครม.อนุมัติแล้ว แต่ถูกคัดค้านจากสภาพัฒน์ว่าแผนการบินและใช้งานเปลี่ยนต้องเข้า ครม.ใหม่ ดังนั้นเครื่องบินที่ต้องใช้จริงในอีก 7 ปีข้างหน้า คือ 25 ลำ ไม่ใช่ 38 ลำใช้หรือไม่

นายถาวรกล่าวว่า นอกจากนี้ได้ให้แจกแจงที่มาของเงินลงทุนว่ามาจากไหน ใช้เงินลงทุนหรือออกหุ้นกู้ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ชัดเจน รวมทั้งแจกแจงต้นทุนทางการเงิน เช่น ดอกเบี้ย ภาระเงินกู้ด้วย สำหรับการจัดหารอบแรก 25 ลำ จะเป็นเครื่องลำตัวแคบ 22 ลำ และลำตัวกว้าง 3 ลำ ก็ขอให้การบินไทยตอบว่าเครื่องลำตัวแคบจะเอามาใช้เองหรือให้ไทยสมายล์เช่า เพราะถ้าใช้เองจะใช้ทั้ง 22 ลำหรือไม่ หรือถ้าให้ไทยสมายล์เช่ามีแผนดำเนินการร่วมกันหรือยัง และเครื่องบินที่จัดหาแล้ว คือ โบอิ้ง 777 ที่จะรับมอบปลายปี 2563 อีก 3 ลำ หากไม่อยู่ใน 38 ลำ ก็จะกลายเป็น 41 ลำ ซึ่งไม่สอดรับกับ 38 ลำ

นายถาวรกล่าวว่า เพื่อความรอบคอบได้ขอให้คณะกรรมการ(บอร์ด) การบินไทย พิจารณาเรื่องดังกล่าวอีกรอบ เนื่องจากแผน 38 ลำ มีมาเป็น 10 ปีแล้ว ไม่สอดคล้องกับปัจจุบัน อีกทั้งการศึกษาต้องการเพียง 25 ลำเท่านั้น ก็เป็นคำถาม ก็ให้ไปหาคำตอบมาให้ละเอียดอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจน โดยจะต้องทำให้เสร็จเพื่อนำเข้า ครม.ภายในเดือนกันยายนนี้

“คมนาคมได้ส่งเรื่องนี้กลับไปให้การบินไทยพิจารณา โดยบอร์ดจะมีการประชุมในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ เมื่อพิจารณาแล้วเสร็จก็จะส่งสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)พิจารณา จากนั้นก็ส่งสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม ส่งมารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม ประมาณ 2 สัปดาห์ก็เข้า ครม. หรือไม่เกินวันที่ 30 กันยายน 2562 นี้”นายถาวรกล่าว