‘ฝ่ายค้าน’ ขู่ ‘บิ๊กตู่’ ไม่มาตอบเองปมถวายสัตย์ฯ เรื่องไม่จบแน่

ฝ่ายค้านคาดซักฟอก บิ๊กตู่ ปมถวายสัตย์ฯ 2 วันกำลังดี เตือนไม่มาตอบเอง เรื่องไม่จบแน่

เมือวันที่ 18 ส.ค. นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการยื่นอภิปรายนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 กรณีนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนว่า หลังจาก ส.ส.ฝ่านค้านได้ยื่นต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเพื่อบรรจุระเบียนวาระ ซึ่งฝ่ายค้านไม่ได้เตรียมตัวเรื่องดังกล่าวมากนัก เพราะมีข้อมูลปรากฎครบถ้วนอยู่แล้ว ทั้งนี้ ประเมินว่าการอภิปรายตามมาตรา 152 ควรใช้เวลา 2 วันเป็นอย่างต่ำ แต่ไม่ควรเกิน 3 วัน อย่างไรก็ตาม เมื่อทราบกรอบเวลาในการอภิปรายแล้ว ฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรคการเมือง จะมาบริหารเวลากันอีกที

นายสุทินกล่าวว่า ส่วนที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุ นายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องตอบเองก็ได้นั้น หากเป็นเช่นนั้นจริง คงต้องถามกลับไปถึงสปิริต ความรับผิดชอบ และการให้ความสำคัญต่อรัฐสภาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะการถวายสัตย์ฯนั้น ไม่เหมือนเรื่องอื่น จึงไม่สามารถเทียบกับประเด็นต่างๆ ที่นายวิษณุ หยิบยกขึ้นมาได้ ประเด็นนี้เกี่ยวข้องกับการบังควรหรือมิบังควร ซึ่งการถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ จะเป็นความผิดพลาดหรือจงใจ พล.อ.ประยุทธ์ ล้วนรู้ดีที่สุด จึงไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะให้คนอื่นมาตอบแทน หาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มาตอบด้วยตัวเอง เรื่องนี้ก็คงไม่จบและยังจะส่งผลให้คนไทยทั้งประเทศผิดหวังด้วย

นายสุทินกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีท่าทีจาก พล.อ.ประยุทธ์ ในสัปดาห์ก่อนว่าจะขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว โดยน้อมรับว่าเป็นความผิดพลาด แต่พอมาสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ กลับเปลี่ยนท่าที โดยโยนไปที่องค์กรอิสระอย่างผู้ตวจการแผ่นดินและศาลรัฐธรรมนูญ จึงเหมือนเป็นการกลับคำ ซึ่งทำให้คนสับสนเป็นอย่างมาก เพราะท่าทีล่าสุดของ พล.อ.ประยุทธ์ คือ 1.ไม่ยอมรับผิด 2.ไม่ยอมรับผิดชอบ 3.ผลักภาระให้คนอื่น

นายสุทินกล่าวว่า การอภิปรายปมถวายสัตย์ฯของ พล.อ.ประยุทธ์ เป้าประสงค์ของฝ่านค้านไม่ได้มุ่งหวังจะล้มรัฐบาล เพียงแค่เห็นว่าไม่สามารถปล่อยการกระทำที่ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญให้ผ่านไปได้ ซึ่งหากฝ่ายรัฐบาลมาเป็นฝ่ายค้านก็คงทำแบบเดียวกัน คือไม่สามารถปล่อยให้เรื่องนี้เงียบไปได้ เพราะถือเป็นทั้งบรรทัดฐานทางกฎหมาย ประเพณีปฏิบัติ ฯลฯ ดังนั้น จึงอยู่ที่สำนึกของคนเป็นนายกรัฐมนตรี ว่าจะพอมีจริยธรรมหรือไม่ ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีมีความบอบบางทางจริยธรรมน้อย ฝ่ายค้านคงไม่สามารถทำอะไรได้

“ส่วนที่รองนายกฯวิษณุ อ้างว่าสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ไปตอบข้อซักถามกรณีโฟร์ซีซั่น ต้องบอกว่ากรณีโฟร์ซีซั่นกับการถวายสัตย์ฯไม่ครบตามรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถเทียบกันได้ เพราะโฟร์ซีซั่นเป็นเรื่องจุกจิกเล็กน้อยและเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประชาชนเลย แต่การถวายสัตย์ฯนั้น หมายถึงเสถียรภาพของรัฐบาลเป็นเรื่องมิบังควร ทั้งนี้ เราน้อมรับไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเรื่องนี้ออกมาอย่างไร แต่คำวินิจฉัยศาลไม่เกี่ยวกับสำนึกทางจริยธรรม เพราะผิดหรือไม่ผิดกฎหมายกับเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม มันคนละเรื่อง” นายสุทินกล่าว