เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า หลังจากมีการเผยแพร่ภาพการติดตั้งป้ายแจ้งเส้นทางซ้ำซ้อน ของกรมทางหลวงในสังคมโซเชียล บริเวณถนนหมายเลข 117 พิษณุโลก – นครสวรรค์ เริ่มจากแยกบ่อทอง อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก จนถึงบริเวณมหาวิทยาลัยนเรศวร ทั้งที่ป้ายเก่ายังไม่ชำรุด เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ต่อมารองผู้อำนวยการแขวงการทางหลวง พิษณุโลกที่ 1 ฝ่ายปฏิบัติการ ได้ออกมาชี้แจงว่าเป็นโครงการปรับปรุงคุณภาพป้ายบอกทางให้ดีขึ้น เนื่องจากป้ายเก่าใช้มานานกว่า 10 ปี โดยการปรับปรุงนั้นจะนำป้ายบอกทางคุณภาพดีมาแทนของเดิมที่สามารถสะท้อนแสงได้ดีกว่า จำนวน 20 จุด

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า จากการตรวจสอบการดำเนินการของกรมทางหลวง ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะบนถนนสายพิษณุโลก – นครสวรรค์ แต่ก่อนหน้านี้เคยเกิดขึ้นในถนนหลายสายในจังหวัดภาคอีสานจัดทำป้ายในลักษณะเดียวกัน ทั้ง ที่ป้ายเดิมยังมีสภาพใหม่ไม่ชำรุด การชี้แจงของตัวแทนกรมทางหลวงไม่อาจรับฟังได้ หรือทำไมไม่ทำป้ายให้ดีมีคุณภาพตั้งแต่เริ่มต้น นอกจากนั้นยังมีการจัดทำป้ายและติดตั้งในพื้นที่ที่ไม่เกิดประโยชน์ เช่นป้ายบอกทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ติดตั้งอยู่ริมถนนใน จ.เชียงใหม่เป็นต้น หรือการอนุญาตให้มีป้ายของธุรกิจเอกชนไปติดตั้งเป็นมลภาวะริมถนน เช่น ป้ายบอกห้างสรรพสินค้า หรือร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมงของเจ้าสัวรายใหญ่ ซึ่งเชื่อว่ามีผลประโยชน์แอบแฝงในการอนุญาตให้ติดตั้ง

“ กรณีดังกล่าวชี้ให้เห็นว่ากรมทางหลวงได้รับการจัดสรรงบประมาณในแต่ละปีมากเกินไป จึงหาวิธีใช้เงินให้หมดด้วยการทำโครงการเปลี่ยนป้ายใหม่ๆ โดยมีข้ออ้าง ที่สำคัญป้ายเดิมที่ถอนเก็บไปแล้ว อ้างว่าจะนำไปติดตั้งในถนนสายอื่น ๆ ต่อไปนั้น กรณีนี้จะต้องมีการตรวจสอบในรายละเอียดว่า ในถนนสายใหม่ที่จะนำป้ายเก่าไปติดตั้งนั้น มีการขอตั้งงบประมาณจัดทำป้ายใหม่ไว้ก่อนแล้วหรือซ้ำซ้อนกันหรือไม่ด้วย วันนี้สมาคมฯจะร้องเรียนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่ากรมทางหลวงได้ใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวมีความคุ้มค่า ซ้ำซ้อนและก่อให้เกิดความเสียหายต่อเงินแผ่นดินหรือไม่ ที่สำนักงาน สตง. เขตพญาไท” นายศรีสุวรรณ กล่าว