นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เศรษฐกิจในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ กระทรวงการคลังเตรียมเสนอแพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจให้เข้าสู่ที่ประชุม คาดว่าจะมีเม็ดเงินจากมาตรการทำให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 1 แสนล้านบาทจากการจับจ่ายใช้สอย และการลงทุน แต่งบประมาณนำมาใช้สำหรับมาตรการมีวงเงินไม่ถึง 1 แสนล้านบาท โดยเป็นเงินจากงบกลาง และเงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)

นายอุตตมกล่าวว่า มาตรการเน้นกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย กระตุ้นให้เกิดการลงทุน ช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง และสนับสนุนเกษตรกรในการเพาะปลูก ช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวให้เกิดการเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยเพื่อให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจฐานราก รวมถึงดูแลสภาพคล่องผู้ประกอบการรายเล็กและรายกลาง

“ในเรื่องท่องเที่ยวมาตรการออกมาต้องกว้างไม่จำกัดเฉพาะเมืองรอง โดยมาตรการทั้งหมดที่ออกมานั้นต้องใช้เงินภายในปีนี้ เพื่อดูแลเศรษฐกิจช่วงที่เหลือของปี ทำให้คนกล้าลงทุนและทำให้นักลงทุนเห็นว่าไทยเดินหน้าต่อไปได้ โดยขณะเศรษฐกิจไทยกำลังได้รับความผันผวนจากเศรษฐกิจโลกและมีแนวโน้มถดถอย ดังนั้นไทยต้องไม่ประมาทต้องเตรียมตัวไว้ก่อน”นายอุตตมกล่าว

เมื่อถามถึงเรื่องช้อปช่วยชาติเคยให้ลดหย่อนภาษี 1.5 หมื่นบาท จะนำมาใช้ใหม่หรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า ถ้าจะมีคงไม่เหมือนเดิม ซึ่งรัฐบาลต้องการกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ส่วนรูปแบบเป็นอย่างไรขอให้ผ่านครม.เศรษฐกิจก่อน

นายอุตตมกล่าวถึงกรณีสมาคมสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียนเข้าพบว่า นักลงทุนทุนแสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจและนโยบายของรัฐบาลใหม่ และพร้อมลงทุนในไทยเพิ่มเติม  ซึ่งนักลงทุนดังกล่าวพร้อมลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาในประเทศ ซึ่งสะท้อนว่าเขาสนใจลงทุนในไทยระยะยาว โดยนักลงทุนถามทิศทางนโยบายว่าจะเป็นอย่างไร บอกไปว่ารัฐบาลใหม่พร้อมปฏิรูปปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจของไทย โดยยกตัวอย่างโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งรัฐบาลจะพัฒนาดิจิทัลเพื่อให้ฐานรากของประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กและเอสเอ็มอีได้ประโยชน์