เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาในคดีระเบิดรอบพื้นที่กรุงเทพฯ ต่อเนื่องนนทบุรี เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่า เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม 4 คน คือ นายอัสมี อาบูวะ,นายอุสมาน เปาะลอ,นายอัมรี มะมิง,และ นายฮาแซ แบเล๊าะ หลังพนักงานสอบสวนได้ขออำนาจออกหมายจับ ในหลายข้อหาที่เกี่ยวข้องกับคดีระเบิด ส่วนผู้ที่ก่อเหตุในพื้นที่ย่านปทุมวันจะอยู่ในระดับใดของขบวนการนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ทั้งนี้ชุดสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี แต่จะหลบหนีอยู่ในประเทศหรือต่างประเทศนั้นยังไม่สามารถระบุได้เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า สำหรับการรวมคดีมาที่กองปราบปรามนั้นเป็นการทำเพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยากและสับสนการทำสำนวนคดีโดยกองปราบจะมีหน้าที่รวบรวมสำนวนจากคณะทำงานในแต่ละพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อให้ง่ายต่องานธุรการในชั้นศาล ส่วนงานสืบสวนสอบสวนยังคงเป็นหน้าที่ของคณะทำงานที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแต่งตั้งไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งก็มีตำรวจของกองปราบปรามร่วมอยู่ในคณะด้วย

นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวว่ากองปราบปรามยังไม่สามารถรวมคดีได้ เนื่องจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังไม่ได้เซ็นหนังสือคำสั่งมอบหมายให้กองปราบเป็นผู้รวมสำนวนคดีนั้น ตนขอชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวไม่จำเป็นต้องมีหนังสือคำสั่งแต่เป็นหลักปฎิบัติที่เจ้าหน้าที่ต้องทราบและปฎิบัติตามอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องมีการเซ็นหนังสือคำสั่งอย่างเป็นทางการทุกครั้ง

“ส่วนตัวยังไม่ทราบถึงรายละเอียดของกระแสข่าวว่ามีการควบคุมตัว 18 ผู้ต้องสงสัยร่วมก่อเหตุ โดยควบคุมตัวอยู่ที่จังหวัดยะลา ตามกฎหมายพิเศษในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และในเบื้องต้นยังไม่มีการกำหนดว่าจะมีการส่งผู้ต้องสงสัยรายใดมาดำเนินคดีในกรุงเทพฯ” รอง โฆษก ตร.กล่าว