วิปฝ่ายค้านจ่อยื่นญัตติ ใช้ ม.152 อภิปรายนายกฯ ปมถวายสัตย์ฯ ต่อประธานสภาพรุ่งนี้

วิปฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติ ใช้ ม.152 อภิปรายนายกฯ ปมถวายสัตย์ฯ ต่อประธานสภา พรุ่งนี้ ฟาก “อนาคตใหม่” จ่อตั้งกระทู้ถามเรื่อยๆ ไม่หยุดจนกว่านายกฯจะมาตอบ

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่รัฐสภา ตัวแทน 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย พล.ท.พงศกร รอดชมภู พรรคอนาคตใหม่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ และนายสุทิน คลังแสง ส.ส. พรรค พท. ร่วมแถลงถึงการใช้มาตรา 152 ขออภิปรายโดยไม่ลงมติ ในกรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณตนของนายกรัฐมนตรี

โดย น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ อาจเข้าใจเอาเองว่าเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 นั้น มีผู้ไปร้องและเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการของผู้ตรวจการแผ่นดินไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมาชี้แจงสภา ซึ่งถือว่าเป็นความเข้าใจผิดอย่างมาก และสะท้อนให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังขาดความรู้ความเข้าใจในระบบรัฐสภาที่มาจากประชาชน เพราะการตั้งกระทู้ถามคือคำถามที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ถามต่อนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี เพื่อขอให้ตอบในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของรัฐบาล หรือ เรื่องสำคัญใดๆ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน หรือเป็นเรื่องกระทบถึงประโยชน์ของประเทศชาติประชาชน หรือเป็นเรื่องเร่งด่วน ดังนั้นการตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้อันเนื่องจากนายกรัฐมนตรีกระทำการบกพร่อง ผิดพลาด และอาจผิดกฎหมาย ส่งผลให้การดำรงอยู่ของ ครม.สุ่มเสี่ยงต่อการเป็นโมฆะ จึงเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีต้องรีบมาชี้แจงต่อสภาอย่างเร่งด่วน ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยแบบนี้ ตนเองขอยืนยันว่าฝ่ายค้านไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะใช้เรื่องถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนมาเป็นเครื่องมือในการโจมตีนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลตามที่นายกฯกล่าวหา แต่เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่ต้องตรวจสอบ หากไม่ดำเนินการฝ่ายค้านเองก็ต้องถูกดำเนินการในข้อหาละเว้นเช่นเดียวกัน ดังนั้นขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจอำนาจหน้าที่ของตนเอง และให้เกียรติการทำงานของแต่ละฝ่ายด้วย และจากนี้ไปหวังว่าฝ่ายค้านจะไม่ได้ยินนายกรัฐมนตรีปฏิเสธความรับผิดชอบต่อสภาเช่นนี้อีก อย่างไรก็ตามหากนายกรัฐมนตรียังอ้างว่าตัวเองยอมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบในช่องทางอื่นๆ ไปแล้วและไม่ยอมเข้าสู่การตรวจสอบของสภาที่มาจากประชาชน ฝ่ายค้านย่อมมีความจำเป็นต้องใช้อำนาจของสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เพื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในการซักถามข้อเท็จจริงจากนายกรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นขอบอกเลยว่าจะไม่มีแค่ประเด็นกระทำความผิดตามรัฐธรรมนูญเรื่องการถวายสัตย์เท่านั้น แต่จะมีประเด็นบกพร่อง ผิดพลาด และอาจผิดกฎหมายอื่นๆ อีกด้วย

ด้านนายจิรายุกล่าวว่า แม้เรื่องดังกล่าวจะเข้าสู่กระบวนการผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่กว่าจะพิจารณาและส่งต่อไปยังศาลปกครอง ทั้งนี้กรณีนายกฯ เป็นเรื่องบุคคล เข้าข่าวมาตรา 231 (2) ที่ว่ากฎคำสั่งหรือการกระทำอื่นใดของหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายให้เสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลปกครองและให้ศาลปกครองพิจารณาวินิจฉัยโดยไม่ชักช้า ทั้งนี้ เรื่องอาจจะต้องใช้เวลานานพอสมควร ดังนั้นพรรคฝ่ายค้านมีความเห็นว่า จะพิจารณาอะไรไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.งบประมาณฯ ฯลฯ เราจึงคิดว่าควรใช้มาตรา 152 เพื่อช่วยหาทางออกให้รัฐบาล และนายกรัฐมนตรี

พล.ท.พงศกรกล่าวว่า เราจะคั้งกระทู้ถามสด ไปยังนายกฯ อีกครั้ง ซึ่งจะเป็นครั้งที่ 3 โดยเราหวังว่าท่านจะมาตอบกระทู้ดังกล่าวในสภา รวมถึงเราจะตั้งกระทู้ถามถึงการแถลงนโยบายที่ไม่ได้มีการระบุแหล่งที่มาและจำนวนงบประมาณด้วย เพราะฝ่ายค้านเราอยากได้รัฐบาลที่สง่างาม

ด้านนายสุทินกล่าวว่า พรุ่งนี้ (16 สิงหาคม) พรรคฝ่ายค้านจะยื่นญัตติต่อประธานสภา ในกรณีดังกล่าวนี้ เวลา 08.00 น. ที่รัฐสภา หวังว่าท่านประธานจะบรรจุญัตติดังกล่าวโดยเร็วถ้าเป็นไปได้ควรบรรจุญัตตินี้ต่อจากการพิจารณาข้อบังคับการประชุมรัฐสภา เพื่อให้มีการอภิปรายก่อน พ.ร.บ.งบประมาณฯ เข้าที่ประชุมสภา