ที่กระทรวงพาณิชย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ หารือกับสภานักธุรกิจอาเซียน-สหรัฐ (USABC) จำนวน 40 คนจาก 47 บริษัท ที่เป็นบริษัทชั้นนำของสหรัฐและลงทุนในไทยหลายบริษัท เช่น เชฟรอน ซิสโก้ HP Merck StripeandVISA AmazonCity Dow Ford และ Google ในโอกาสมาเยือนและคารวะแสดงเจตนารมณ์ในการเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญเพื่อสนับสนุนเป้าหมายทางเศรษฐกิจของไทยและเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจของภาคเอกชนสหรัฐกับประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการพบปะได้มีการแลกเปลี่ยนแนวทางที่ภาคเอกชนสหรัฐจะสนับสนุนนโยบายล่าสุดของกระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะแนวนโยบายของนายจุรินทร์ ที่เตรียมผลักดันทั้งด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจทันสมัย เศรษฐกิจดิจิทัล อีคอมเมิร์ซ รวมถึงนโยบายส่งเสริมการค้า การลงทุนและการส่งออกของไทย ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ได้แจ้งความคืบหน้าการเจรจาอาร์เซ็ป(อาเซียนบวก6)รวม 16 ประเทศ ที่มีแนวโน้มที่ดีอาจจบการเจรจาสิ้นปีนี้ ทั้งนี้เพื่อการวางแผนการค้าการลงทุนเพราะเป็นพื้นที่ประชากรมากจำนวนครึ่งหนึ่งของประชากรโลก นอกจากนั้นแนวทางของไทยคือจะเดินหน้าเปิดเอฟทีเอกับอังกฤษและเวทีอื่นๆ

นอกจากนี้ยังชี้แจ้งว่า ประเทศไทยยังมีเรื่องต้องเจรจาหลายด้าน อาทิ การอำนวยความสะดวกทางการค้า ใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า การส่งเสริมใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า แนวทางความร่วมมือ การอำนวยความสะดวกในการตั้งธุรกิจ รวมทั้งการปรับปรุงบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และเรื่องการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา การส่งเสริมนวัตกรรม เป็นต้น

และเสนอให้บริษัททั้งหลายให้ความสำคัญในการเป็นคู่ค้าคือสร้างประโยชน์ให้กับประเทศไทยและขอให้ใช้ผลผลิตทางการเกษตรอย่าง เช่น ใช้ยางพาราของประเทศไทยเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตยางรถยนตร์ในบริษัทที่เกี่ยวข้องด้วย และจะขอติดตามความคืบหน้าและความร่วมมือ เน้นเกษตรพันธะสัญญาเพื่อวางแผนการผลิตโดยพันธะสัญญาร่วมกับบริษัท นอกจากนั้นยังเรื่องที่เกี่ยวกับการส่งเสริมทางด้านการศึกษาให้โอกาสนักเรียนอาชีวะฝึกอาชีพและทำงานโดยเฉพาะการผลิตนักเรียนอาชีวะให้ตรงกับความต้องการ เพื่อสร้างงานสร้างรายได้