เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังหารือกับนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท.ว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมามีผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) แต่เป็นผลจากการที่การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูงต่อเนื่องหลายปีเงินทุนจึงไหลเข้ามาจำนวนมากทำให้ค่าบาทแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ดีจากการหารือกับ ธปท. มีความสบายใจมากขึ้น เพราะ ธปท.ได้มีมาตรการต่างๆ ในการดูแลค่าเงินบาท แต่การเข้าไปดูแลธปท. ก็ต้องระมัดระวัง และต้องเข้าไปดูแลในกรอบที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้ถูกจับตาว่าเป็นประเทศแทรกแซงค่าเงินเพื่อให้ได้ประโยชน์ทางการค้าของสหรัฐ

นายสุริยะ กล่าวว่า สำหรับแนวทางที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ ในช่วงที่ค่าเงินบาทแข็งค่า คือ 1.การสนับสนุนการใช้เงินท้องถิ่นหรือสกุลเงินบาทในการค้าขายเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของดอลลาร์สหรัฐ 2.สนับสนุนผู้ประกอบการทำประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 3.สนับสนุนผู้ประกอบการนำเข้าเครื่องจักรในช่วงบาทแข็ง โดยจะเสนอให้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีหากมีการลงทุนซื้อเครื่องจักรในช่วงค่าเงินบาทแข็งค่า และ 4.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้นรองรับการเข้าไปขยายธุรกิจของผุ้ประกอบการรายใหญ่

“ค่าเงินบาทขณะนี้ยอมรับว่าเป็นอุปสรรคต่อภาคอุตสาหกรรม แต่ก็เข้าใจธปท.ว่า การดูแลนั้นมีข้อจำกัด ซึ่งที่ผ่านมา ธปท.ก็ดูแลระดับหนึ่ง แต่หากดูแลมากไปก็จะถูกขึ้นบัญชีจากการแทรกแซงค่าเงินได้ สิ่งสำคัญคือ ใช้โอกาสนี้ นำเข้าเครื่องจักร โดยให้บีโอไอออกมาตรการส่งเสริมการลงทุน เพื่อให้ซื้อเครื่องจักรได้ถูกและยังจะได้อีกสิ่งคือ เมื่อมีการจ่ายเงินซื้อเครื่องจักรก็จะทำให้เงินไหลออกไปและทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าไปด้วยอีกทาง โดยวันที่ 14 สิงหาคมนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมามอบนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งทางกระทรวงฯ จะมีการหารือ และเสนอให้ นายสมคิดพิจารณาประเด็นเหล่านี้ด้วย”นายสุริยะ กล่าว