“รองโฆษกอัยการ”เผยอัยการยังไม่ได้รับสำนวนคดีระเบิดที่ระบุว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักร จาก ตร.

“รองโฆษกอัยการ”เผยอัยการยังไม่ได้รับสำนวนคดีระเบิดที่ระบุว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักร จาก ตร. หากเข้าข่ายจริงเป็นอำนาจสอบสวน อสส.สั่งได้ 3 เเนวทาง

เมื่อวันที่ 13 ส.ค.นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่าคดีลอบวางระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ และนนทบุรีที่จะมีการโอนคดีมาอยู่ในความรับผิดชอบของกองปราบฯซึ่งคดีดังกล่าวมีการวางแผนในการก่อเหตุที่ประเทศมาเลเซียซึ่งถือเป็นการกระทำนอกราชอาณาจักรจากตามป.วิอาญามาตรา 20 ให้อำนาจสอบสวนเป็นของอัยการสูงสุดว่า ตนได้สอบถามไปยังนาย มั่นเกียรติ ธนวิจิตรพันธ์ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน พบว่าทางอัยการยังไม่ได้รับสำนวนเรื่องดังกล่าวมาจากพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด

แต่ตามหลักกฏหมายถ้าหากกรณีดังกล่าวนั้นเป็นความผิดนอกราชอาณาจักรจริงๆ อำนาจการสอบสวนจะเป็นของอัยการสูงสุดโดยจะมีแนวทางปฏิบัติดังนี้เมื่อพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วเห็นว่ากรณีดังกล่าวเป็นคดีนอกราชอาณาจักรก็จะนำสำนวนส่งมาที่อัยการสูงสุดโดยอัยการสำนักงานการสอบสวน จะเป็นคนตั้งเรื่องทำความเห็นเสนออัยการการสูงสุดว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักรหรือไม่ ซึ่งอัยการสูงสุดจะเป็นผู้พิจารณาว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีนอกราชอาณาจักรหรือไม่หากพิจารณาแล้วว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักรก็จะมี3แนวทางคือ1.มอบหมายให้พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีตั้งแต่ต้นดำเนินการสอบสวนคดีต่อไป 2.มอบหมายให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนคดีโดยให้พนักงานอัยการของสำนักงานการสอบสวนไปร่วมสอบสวนคดีนี้ด้วย เเละ3.มอบหมายให้อัยการสำนักงานการสอบสวนคดีเป็นผู้รับผิดชอบสอบสวนคดีเองทั้งหมดก็ได้

ส่วนอัยการสูงสุดจะใช้แนวทางไหนนั้นเป็นอำนาจและดุลพินิจของอัยการสูงสุด แต่หากว่าอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีดังกล่าวไม่ใช่คดีนอกราชอาณาจักรสำนวนคดีก็จะตีกลับไปยังพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนตามขั้นตอนปกติ

ส่วนคดีระเบิดนี้จะเป็นคดีนอกราชอาณาจักรหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถให้ความเห็นได้เนื่องจากอัยการสูงสุดยังไม่ได้เห็นสำนวน