เรืองไกร จี้ปมใหญ่กว่าถวาสัตย์ ปธ.ชวน พลาดขั้นตอนเลือกนายกฯ ไม่ชอบ รธน. ?

เมื่อวันที่ 12 ส.ค. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า มีประเด็นใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม และไม่ว่าปมถวายสัตย์และปมไม่แจงที่มาของรายได้ในการแถลงนโยบายจะแก้ไขอย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีผลทำให้รัฐบาลนี้เกิดความชอบขึ้นมาได้

โดยปมดังกล่าว มีเหตุมาจากนายชวน หลีกภัย ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญให้ครบถ้วน กรณีการให้ความเห็นชอบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 6/2559 ระบุไว้ชัดว่า การได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรี รัฐธรรมนูญได้แบ่งขั้นตอนการเสนอชื่อ และการให้ความเห็นชอบออกจากกัน กล่าวคือ ขั้นตอนการเสนอชื่อต้องทำในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และขั้นตอนการให้ความเห็นชอบต้องทำในที่ประชุมรัฐสภา เรื่องนี้เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวางบรรทัดฐานไว้แล้ว ไม่น่าจะมีการทำผิดพลาดขึ้นมาได้

แต่ก็มีเหตุขึ้นมาจนได้ เพราะเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 62 นายชวน ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะต้องดำเนินการให้มีการเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมสภา
ผู้แทนราษฎรก่อน แต่นายชวนไม่ทำ ทั้งที่มีการทักท้วงแล้ว และมีการรวบขั้นตอนไปทำในที่
ประชุมรัฐสภา

เหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 62 มีหลักฐาน 2 ชิ้น คือ บันทึกการประชุมสภาผู้แทนราษฎร และ
บันทึกการประชุมรัฐสภา ที่ระบุชัดเจนว่า ขั้นตอนการเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็น
นายกรัฐมนตรีในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรก่อน ไม่มีแต่อย่างใด แต่กลับไปเสนอชื่อและให้
ความเห็นชอบในที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งไม่อาจทำได้ เพราะเป็นการข้ามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ
การข้ามขั้นตอนโดยไม่ทำตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว เป็นประเด็นใหม่ที่คงทำให้
หลายคนรู้สึกเสียวสันหลังกันแล้ว

เพราะผู้ที่เกี่ยวข้องต้องตระหนักรู้ได้ทันทีว่า การเลือกนายกรัฐมนตรีเกิดความผิดพลาดแล้วอย่างจัง ทำให้การได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรึไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ดังนั้น เรื่องถวายสัตย์ไม่ครบ เรื่องนโยบายไม่ใส่ตัวเลข จึงเป็นประเด็นรอง

นายเรืองไกร กล่าวทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้อาจเป็นต้นเหตุที่จะทำให้เรือเหล็กจมลงก็ได้ ดังนั้น ตนจะ
ไปร้องที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การที่นายชวน ไม่ทำตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีคำวินิจฉัยที่ 6/2559 ไว้เป็นบรรทัดฐานแล้วนั้น จะทำให้การกระทำของนายชวน
ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ และการให้ความเห็นชอบพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
จะเป็นโมฆะหรือไม่ โดยจะไปยื่นหนังสือที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ อาคาร A ใน
วันที่ 13 ส.ค.นี้ เวลา 10.30 น.