กรณีที่มีวิวาทะระหว่างนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กับส.ส.พรรคเพื่อไทย ในระหว่างการพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. … หลังกรรมาธิการวิสามัญฯได้เพิ่มถ้อยคำว่า ให้ประธานสภาต้องวางตนเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ โดยฝ่ายส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้หยิบยกการทำหน้าที่ของนายชวน มาอภิปรายสนับสนุนให้เพิ่มถ้อยคำดังกล่าว

วันนี้ (9 ส.ค.) นายอดิศร เพียงเกษ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. …. ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว ใจความว่า

“ผมในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. …..ฯ ผู้สงวนความเห็น ให้ตัดคำว่า”ศาลรัฐธรรมนูญ”ออกจากคำจำกัดความของคำว่า ”ศาล”

ศาล หมายถึง ศาลยุติธรรมหรือศาลปกครอง

เพราะศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ศาล เดิมเป็นตุลาการรัฐธรรมนูญ มีหน้าที่วินิจฉัยว่าองค์กรใดตามรัฐธรรมนูญ กระทำการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

ในอดีตตุลาการรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้กฎหมายย้อนหลังได้ วินิจฉัยให้ “และ”กับ”หรือ” มีความหมายเหมือนกัน วินิจฉัยนอกสำนวน ให้ไปลาดยางถนนลูกรังก่อนค่อยทำรถไฟความเร็วสูง เป็นศาลการเมือง สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้แล้ว ใครไปวิจารณ์อาจมีความผิดละเมิดอำนาจศาล

เมื่อไม่ใช่ ศาล จึงไม่ควรอยู่ในคำจัดความอันเดียวกับศาลยุติธรรมหรือศาลปกครอง

ประธานชวน หลีกภัย พูดมากไปหรือเปล่า ใช้โอกาสนั่งเป็นประธานอภิปรายไปเรื่อย แบบข้าฯดีเอ็งเลว อย่างไรอย่างนั้น

เสียดาย ไม่ได้เป็นสส. ถ้าชวน หลีกภัย อยากพูดมาก ก็ลงจากบัลลังก์ มาอภิปรายข้างล่างสิ
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ดีใจ ที่เห็นคะแนนออกมา 205 ต่อ 204

วันพุธหน้า เจอกันครับ”