“ปิยบุตร” ชี้ ทางออกเดียวของนายกฯ-ครม. คือต้องถวายสัตย์ฯ ใหม่

“ปิยบุตร” ชี้ ทางออกเดียวของนายกฯ-ครม. คือต้องถวายสัตย์ฯ ใหม่

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่การแถลงข่าวภายหลังการประชุม 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย (พท.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ ว่า ในช่วงก่อนแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ตนเองได้พยายามทักท้วงพล.อ.ประยุทธ์แล้ว แต่นายกฯ ไม่ยอมรับ ปล่อยผ่านและยังเดินหน้าแถลงนโยบายต่อ ซึ่งหากวันนั้น นายกรัฐมนตรี ยอมรับในขณะนั้น หยุดการแถลงนโยบายก่อน และนำ ครม.เข้าสู่ขั้นตอนการถวายสัตย์ให้ครบถ้วน ครม.ก็จะสามารถเดินหน้าทำงานได้ แต่ปัญหาคือนายกรัฐมนตรีไม่ยอมรับ จึงทำให้เกิดเงื่อนซับซ้อนมากขึ้น เรื่องนี้มีทางแก้ คือนายกรัฐมนตรีต้องไปดำเนินการกลับไปถวายสัตย์ปฏิญาณให้ครบ เพราะ ประเด็นปัญหา คือ เมื่อผ่านไป 2 สัปดาห์ มีมติ ครม. อนุมัติงบ เสนอร่าง พ.ร.บ.เข้าสู่สภา และทำงานบริหารราชการแผ่นดินไปแล้ว จึงกังวลว่า การทำงานของรัฐบาลจะเป็นโมฆะหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ฝ่ายค้านพยายามสอบถามมาโดยตลอด อีกทั้งไม่ใช่เรื่องสถานะว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะพ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แต่เรื่องสำคัญกว่านั้น คือการเดินหน้าทำงานของ ครม. ชุดนี้สุดท้ายแล้วจะทำได้โดยถูกต้องสมบูรณ์หรือไม่ เพราะการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน และเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่าตัว พล.อ.ประยุทธ์ แต่เป็นเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน

“การเสนอให้ดำเนินการขอถวายสัตย์ปฏิญาณตนใหม่ เพื่อแก้ปัญหาว่า ครม.ชุดนี้ จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้แล้วหรือยัง รวมถึงมติ ครม.ครั้งต่อไปจะสมบูรณ์หรือไม่ แต่ในส่วนการกระทำของพล.อ.ประยุทธ์ และครม.เป็นเรื่องการไม่ปฏิบัติรัฐธรรมนูญด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องส่วนบุคคล” นายปิยบุตร กล่าว

ด้านนายวัฒนา เมืองสุข กรรมการยุทธศาสตร์พรรคพท. กล่าวว่า สถานการณืตอนนี้คืออยากเรียกร้องพล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ถูกต้องตามกระบวนการเพราะผลของความแน่นอน ส่งผลต่อรัฐบาล และกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุน สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ซึ่งเรื่องนี้เป็นหนึ่งในผลพวงรัฐธรรมนูญ 60