จบดีลควบรวมทหารไทย-ธนชาต ‘คลัง’ใช้ 1.5 หมื่นล. ซื้อหุ้นเพิ่มทุน คงอำนาจตั้งประธานบอร์ด ยันไม่ปลดพนักงาน

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การควบรวมระหว่างธนาคารทหารไทย หรือ ทีเอ็มบี และ ธนาคารธนชาต ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว กระทรวงการคลังโดยกองทุนวายุภักษ์จะใช้เงิน 1.5 หมื่นล้านบาทในการซื้อหุ้นเพิ่มทุน หลังเพิ่มทุนทำให้กระทรวงการคลังถือหุ้นในอันดับที่ 3 ในสัดส่วน 18% จาก 20%  รองจากไอเอ็นจีเหลือ 21% จาก 29% และทุนธนชาต(TCAP) ถือหุ้นในสัดส่วน 20% แม้ว่ากระทรวงการคลังถือหุ้นเป็นอันดับ 3 แต่มีอำนาจในการแต่งตั้งประธานบอร์ด ตรงนี้เป็นข้อตกลงระหว่างผู้ถือหุ้น โดยชื่อใหม่ของธนาคารยังใช้ชื่อธนาคารทหารไทย

“กระทรวงการคลังยังถือหุ้นต่อไป เชื่อว่าการควบรวมเป็นประโยชน์ต่อระบบสถาบันการเงิน ทำให้ทหารไทยเป็นธนาคารขนาดใหญ่อันดับที่ 6  ของไทย มีสินทรัพย์ 1.9-2 ล้านล้านบาท ทำให้ระบบของสถาบันการะเงินของไทยเข้มแข็งมากขึ้น สามารถสู้กับแบงก์ต่างชาติได้”นายอุตตม กล่าว

นายอุตตม กล่าวต่อว่า ในส่วนของคลังยืนยันที่จะถือหุ้นธนาคารทหารไทยต่อไปในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ หลังเพิ่มทุนทำให้ต้นทุนของกระทรวงการคลังลดลงเหลือ 2 บาทต่อหุ้น จากที่ซื้อมา 3.84 บาทต่อหุ้น โดยยังไม่มีแนวคิดที่จะขายหุ้นของธนาคารใหม่หลังการเพิ่มทุน

นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานธนาคารทหารไทย กล่าวต่อว่า กระบวนการควบรวมต้องแล้วเสร็จภายในปีนี้ เพื่อสิทธิประโยชน์ด้านภาษี โดยคาดว่าใช้กระบวนการบริหารจัดการภายในไม่น้อยกว่า 1.5 ปี เพื่อให้เป็นแบงก์ใหม่ที่สมบูรณ์ ยืนยันจะไม่มีการปลดพนักงาน