‘พุทธิพงษ์’ ชี้ นายกฯพยายามจัดสรรตำแหน่งให้ลงตัว เชื่อ พรรคเล็กเปลี่ยนจุดยืนไปมาไม่ง่าย

“พุทธิพงษ์” ชี้ นายกฯ พยายามจัดสรรตำแหน่งให้ลงตัว ย้ำ ฟังทุกเสียงสะท้อนของพรรคเล็ก เชื่อ อุดมการณ์ที่มีร่วมกันแต่แรกเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่ง่าย พร้อม เวลาประสานใจ

เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และแกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ 5 พรรคเล็กร่วมรัฐบาลเตรียมตีจากรัฐบาล ว่า ส่วนที่พรรคเล็กตั้งข้อสังเกตเรื่องการบริหารจัดการตำแหน่งนั้นเพราะตำแหน่งมีจำกัด นายกฯก็พยายามบริหารจัดการให้สัดส่วนลงตัวที่สุด และสามารถเดินหน้ารัฐบาลไปสู่การบริหารราชการแผ่นดินได้ ทั้งนี้ เข้าใจว่าในส่วนของพรรคเล็กเรามีผู้ประสานงานในการร่วมทำงานกับฝั่งรัฐบาล แต่จากเสียงสะท้อนที่ส่งขึ้นมายังต้องอาศัยความเข้าใจ เราก็เห็นใจพรรคเล็กเพราะร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมา และทุกคะแนนของพรรคร่วมก็มีความสำคัญ ดังนั้นทุกเสียงสะท้อนก็ต้องรับฟัง เนื่องจากเรามาจากพรรคร่วมหลายพรรคจะให้ได้ทั้งหมดก็คงไม่ได้

เมื่อถามว่า หากขาดไป 5 เสียง จะส่งผลต่ออะไรหรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าคงยังไม่ไปถึงขนาดนั้น ตนคิดว่าตั้งแต่แรกที่เราตัดสินใจมาร่วมรัฐบาลกันทุกพรรคมีเจตนาเดียวกัน มีแนวทาง ความตั้งใจ และอุดมการณ์เดียวกันมาตั้งแต่แรก ดังนั้น การที่จะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาคงไม่ง่าย

เมื่อถามว่า จะทำให้สังคมเกิดความเบื่อหน่ายไหมที่แย่งตำแหน่งกันไปมา นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่แต่ละคนต้องไปวิเคราะห์กันเอง แต่ในส่วนของรัฐบาลนั้นมองว่าปัญหาของประชาชนยังมีมาก ทั้งนายกฯ และครม.ทุกคนต่างเร่งทำงาน ปัญหาที่เกิดขึ้นก็ต้องแก้ไป แต่ปัญหาประเทศที่สำคัญกว่าก็ต้องเดินต่อไป ทั้งนี้ ตนคิดว่าวันนี้ยังมีเวลา เราก็ต้องรับฟังทุกเสียง และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็รับทราบเรื่องนี้แล้ว คงจะได้เร่งหารือ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรคงต้องขอเวลาเล็กน้อย ยังมีเวลา เพราะยังมีอีกหลายตำแหน่งที่ยังไม่ได้สรุป

เมื่อถามว่า นายธรรมนัส ระบุว่าประสานงานแค่ตอนที่เชิญมาร่วมรัฐบาล ตอนนี้ไม่ได้ยุ่งแล้ว นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า อาจเป็นเรื่องหนึ่งที่เป็นปัญหา เพราะคนกลางคือคนที่ลำบากใจที่สุด บางทีรับเรื่องไป แต่พอไปประสานกับคนที่จัดสรรหรือบริกหารจัดการตำแหน่งอาจไม่ได้รับตามที่คนกลางไปประสานมา แต่ตนเชื่อว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ ทั้งนี้ สังคมก็จับตาดูอยู่ด้วย เพราะประเทศมีปัญหามาก ถ้ามัวแต่มานั่งเถียงกันเรื่องตำแหน่งอาจทำให้เดินหน้าลำบาก

เมื่อถามว่า การแสดงออกของพรรคเล็กช่วงนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ เหมือนฟากรัฐบาลได้เสียแนวร่วมไปแล้ว นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มองอย่างนั้น สิ่งที่นายมงคลกิตติ์พูดออกมาหลายๆครั้งก็มีประเด็น ทุกคนที่เป็น ส.ส.มีเอกสิทธิ์ที่จะพูด และสิ่งใดที่ไม่ถูกต้องแล้วอยากแนะนำก็สามารถพูดได้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ไม่ได้หมายความว่าเป็นรัฐบาลแล้วต้องเชียร์รัฐบาลทุกครั้งสามารถทำได้ แต่สุดท้ายแล้วเราก็ควรมีเอกภาพในภาพรวม เช่น การโหวตกฎหมายสำคัญต่างๆ ท้ังนี้ ตนไม่ได้คิดว่าจะทำให้อายุของรัฐบาลสั้นลงเพราะไม่มีเอกภาพ แต่มองว่าเป็นเรื่องดีที่มีการสะท้อนในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ถ้ารับผิดชอบร่วมกันก็จะทำให้รัฐบาลอยู่ได้นาน