กรมบัญชีกลางนำร่องจ่ายเบี้ยยังชีพคนชรา-เบี้ยคนพิการจ.สิงห์บุรี -ใจดีให้อปท.ยืมเงินหากงบไม่พอจ่าย

นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางนำร่องจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยคนพิการในจังหวัดสิงห์บุรี วันที่ 9 สิงหาคมนี้ ซึ่งกรมบัญชีกลางร่วมมือกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จ.สิงห์บุรี ทั้ง 41 แห่ง ดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลร่วมกัน และได้รับการสนับสนุนจากกรมการปกครองในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลบุคคล เพื่อให้สามารถจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการให้กับผู้มีสิทธิในจังหวัดสิงห์บุรีอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในเดือนสิงหาคม 2562 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน จ.สิงห์บุรี ที่มีฐานข้อมูลพร้อมจ่ายเงินตามโครงการฯ จำนวน 30 แห่ง จากทั้งหมด 41 แห่ง แบ่งเป็น ผู้มีสิทธิที่จะได้รับเบี้ยยังชีพผู้อายุ จำนวน 25,624 ราย เป็นเงิน 16.9 ล้านบาท และผู้มีสิทธิที่จะได้รับเงินเบี้ยความพิการ จำนวน 4,277 ราย เป็นเงิน 3.4 ล้านบาท เริ่มจ่ายตรงเดือนแรกในวันที่ 9 สิงหาคม 2562 สำหรับผู้มีสิทธิที่จะได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการในสิงห์บุรี ที่เหลืออีก 11 แห่ง จะเริ่มจ่ายตรงในวันที่ 10 กันยายน 2562 โดยการจ่ายเงินดังกล่าวจะมีรอบการจ่ายทุกวันที่ 10 ของเดือน หากเดือนใดวันที่ 10 ตรงกับวันหยุดราชการ จะจ่ายในวันทำการก่อนวันหยุดนั้น ๆ

สำหรับการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการแทน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ครั้งนี้ ไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อผู้มีสิทธิ เนื่องจากผู้มีสิทธิจะยังคงได้รับสิทธิตามเดิม ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงิน รวมถึงช่องทางในการรับเงิน อีกทั้ง ช่วยลดขั้นตอนการทำงานและแบ่งเบาภาระงานให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ กรมบัญชีกลางจะทยอยดำเนินการจ่ายเงินในอีก 8 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ จันทบุรี นครราชสีมา มุกดาหาร น่าน อุทัยธานี สมุทรสงคราม พังงา และ สงขลา ซึ่งคาดว่าในปีงบประมาณ2563 จะจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการของ อปท. ครบทั้ง 76 จังหวัด รวมถึงการจ่ายเงินค่าป่วยการ อสส. ในเขตกรุงเทพมหานครด้วย ซึ่งจะทำให้การจ่ายเงินตรงเข้าบัญชีผู้มีสิทธิรับเงินสวัสดิการครบทุกประเภท รวมทั้งสิ้น 12.4 ล้านราย ตามเป้าหมายการดำเนินโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม ตามโครงการอีเพย์เมนต์ ภาครัฐ

ทั้งนี้กรมบัญชีกลางเริ่มโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม ตามโครงการอีเพย์เมนต์  ตั้งแต่เดือนกันยายน 2559 เป็นต้นมา โดยทำหน้าที่จ่ายเงินตรงเข้าบัญชีผู้มีสิทธิรับเงินสวัสดิการสังคมและเงินอื่นแทนส่วนราชการหรือหน่วยงานที่กำกับดูแลสวัสดิการสังคมแต่ละประเภท ได้แก่ เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดของกรมกิจการเด็กและเยาวชน  เงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  เงินเดือนทหารกองประจำการของกระทรวงกลาโหม เงินค่าป่วยการ อสม. ของกระทรวงสาธารณสุข  เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการของกรุงเทพมหานครและเมืองพัทยา มาอย่างต่อเนื่อง

นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าวต่อ่า อปท. ที่เข้าร่วมโครงการหากมีเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้ไม่พอจ่ายให้แก่ผู้มีสิทธิ กรมบัญชีกลางมีแนวทางให้ความช่วยเหลือ อปท. เพื่อให้สามารถจ่ายเงินแก่ผู้มีสิทธิได้อย่างต่อเนื่อง โดยให้ สถ. แจ้งกรมบัญชีกลางขอใช้เงินยืมทดรองราชการเพื่อทดรองจ่ายตามโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคมได้ และเมื่อสิ้นปีงบประมาณ หาก อปท. ใด มีเงินเหลือจากการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการ กรมบัญชีกลางจะโอนเงินที่เหลือจ่ายดังกล่าวคืนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของ อปท. เพื่อเป็นรายได้ของ อปท. ต่อไป