“อุตตม” ระบุอีก 2 สัปดาห์มาตรการกระตุ้นศก.แล้วเสร็จพร้อมเสนอ ครม. 19 ส.ค.นี้วงเงิน 1.7แสนล.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 7 ส.ค.62 นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เรื่อง เร่งการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ดันเศรษฐกิจไทยช่วงท้ายปี เรียกคืนความเชื่อมั่นนักลงทุน โดยมีรายละเอียดคือ

วันนี้ท่านรองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้เปิดโอกาสให้ผมและคณะผู้บริหารกระทรวงการคลัง รวมถึง คุณศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เข้าร่วมประชุมหารือถึงแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงท้ายปีนี้ เพื่อเร่งการลงทุนและสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับคืนมาโดยเร็ว

เนื่องจากท่านรองนายกฯ สมคิด มีความเป็นห่วงปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากหลายปัจจัย ทั้งสงครามการค้าจีน-สหรัฐ ที่รุนแรงขึ้น หวั่นจะกระทบต่อการส่งออกไทย นโยบายอ่อนค่าเงินหยวนของจีน กระแสเงินทุนไหลเข้า หลายปัจจัยส่งผลต่อค่าเงินบาทไทยแข็งค่า หลังจากการตั้ง ครม.ล่าช้ามานานจนกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

วันนี้เราได้จึงเชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ 24 แห่ง ที่มีวงเงินลงทุนสูง เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณในช่วงครึ่งหลังของปี 62 เพื่อใช้เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจช่วงท้ายปีนี้และเร่งแก้อุปสรรครัฐวิสาหกิจในการเบิกจ่ายงบลงทุน โดยต้องการให้เม็ดเงินอีก 1.7 แสนล้านบาท เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจช่วงที่เหลือของปี

ซึ่งทางกระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคมพร้อมจะช่วยแก้ปัญหาอุปสรรคให้กับรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคระหว่างกระทรวง หรือระหว่างหน่วยงาน และอื่น ๆ รวมถึงพร้อมสนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจทำโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมด้วย อย่างเช่น การลงทุนท่อร้อยสายที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลในพื้นที่อีอีซีเพื่อรองรับเทคโนโลยี 5G ของกลุ่มรัฐวิสาหกิจด้านการสื่อสารโทรคมนาคม คือ บมจ. กสท โทรคมนาคม, บมจ. ทีโอที และ บริษัท ไปรษณีย์ไทย

ผมขอเรียนว่า ขณะนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อยู่ระหว่างจัดทำคาดว่าอีก 2 สัปดาห์จะแล้วเสร็จ และเสนอเข้าที่ประชุมครม.เศรษฐกิจพิจารณา โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะประชุมนัดแรกวันที่ 19 ส.ค.62 นี้

นอกจากนี้ ผมได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จัดทำแผนการติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้เข้มข้นมากขึ้นและได้กำชับให้ สคร.ประสานกับรัฐวิสาหกิจ ดูว่ามีอะไรที่ติดขัด ต้องเร่งแก้ไขและลดอุปสรรคต่างๆ ให้ได้มากที่สุด เราจำเป็นจะต้องช่วยกันเร่งรัดการลงทุน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เดินไปข้างหน้าได้โดยเร็วที่สุด

#เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ
#แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ