‘บิ๊กตู่’ เผยกำลังหาตัวเบื้องหลังเหตุระเบิดกรุงเทพฯ ใครไม่เกี่ยว อย่าเดือดร้อน

“บิ๊กตู่” เผยกำลังหาตัวผู้อยู่เบื้องหลัง เหตุระเบิดกรุงเทพฯ ใครไม่เกี่ยวอย่าไปเดือดร้อน

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการจับกุมผู้ต้องสงสัยวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่ กทม. ว่า หน่วยงานเกี่ยวข้องได้รายงานตนตลอดเวลา ซึ่งมีความคืบหน้าตามลำดับ มีการจับกุม การออกหมายจับเพิ่มเติม มีการเชื่อมโยงต่างๆตอนนี้ก็กำลังหาผู้อยู่เบื้องหลัง หรือ mastermind ซึ่งเรายังคงตัดประเด็นใดไม่ได้ สถานการณ์ความไม่สงบ ไม่ปลอดภัยมันมีหลายอย่าง ทั้งเรื่องผลประโยชน์ เหตุการณ์ความไม่สงบใน ชายแดนภาคใต้ ตนไม่อยากไปขัดแย้งกับใคร ใครไม่เกี่ยวข้องก็อย่าไปเดือดร้อนด้วย อาจจะเป็นใครก็ได้ ที่คิดทำเรื่องเหล่านี้ อาจจะทำให้ไม่สงบเรียบร้อย ที่จะทำให้โกรธแค้นหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่คนพวกนี้ไม่สมควรทำ เพราะบ้านเราเดินหน้าอยู่ขณะนี้ เรื่องเหล่านี้ไม่ควรทำไม่ว่าจะสาเหตุอะไรก็ตาม ทั้งในพื้นที่ภาคใต้และพื้นที่อื่นๆ ในส่วนของผู้ปกครองของผู้ต้องสงสัยนั้น ก็เป็นที่เรื่องธรรมดาที่ต้องเชื่อมั่นคนของตัวเองว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ เราถึงให้เขาเป็นผู้ต้องสงสัย ไม่ใช่ผู้ต้องหา ซึ่งยอมรับว่าผู้ต้องสงสัยเป็นในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

เมื่อถามว่า จะเป็นการยกระดับกับการพูดคุยสันติสุขหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า มันก็เป็นอีกประเด็น เพราะเรากำลังอยู่ในกระบวนการพูดคุย สาเหตุนั้นมีหลายอย่าง ประเทศไทยเราก็รู้ปัญหามันเยอะ ประเทศอื่นก็เหมือนกัน ประเทศที่เขาเจริญแล้วเขาก็มีปัญหา ซึ่งวันนี้คณะพูดคุยเขาก็ทำงานอยู่แล้วนโยบายก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่ต้องประสานกับรัฐบาลใหม่ และวันนี้ก็มีความคืบหน้า หลายอย่างก็กำลังขับเคลื่อน หลายอย่างก็ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งในการพูดคุยนั้นเป็นทางลับ เปิดเผยไม่ได้ และหัวหน้าพูดคุยก็ยังเป็น พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับทีมงานทั้งหมด ที่ยึดถือนโยบายลงไป เพราะนายกฯก็เป็นคนเดิม และตนก็เป็น รมว.กลาโหมด้วย เพียงแต่ต้องไปปรับแก้บางอย่างให้สอดคล้องกับบริบทต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เรายกระดับความเข้มข้นการตั้งด่านในพื้นที่ชายแดนทุกด่าน เพราะเป็นช่องทางสำคัญที่ผู้เหตุใช้หลบหนี และเราสามารถจับกุมได้ส่วนใหญ่ก็จากพื้นที่ชายแดนช่องทางธรรมชาติ

“ศอ.บต.ก็มีการรายงานในส่วนที่ดีขึ้น ในส่วนที่ยังมีปัญหาก็ต้องแก้ไข ก็แก้กันไปเรื่อยๆ ดูจากสีหน้าสีตาคนที่มาพบกันวันนี้และจากสองข้างทาง สังเกตดูร้านค้าต่างๆ เขาก็มีชีวิตชีวามากกว่าเดิม เมื่อเปรียบเทียบกับที่ผ่านมา เทศบาลมีการจัดงานวิ่ง งานศูนย์กลางทางศาสนาก็มีคนมาร่วมงานมากขึ้น ไม่มีอุบัติเหตุ ไม่มีความรุนแรง”

นายกฯ กล่าวต่อว่า พอใจการพัฒนาในระดับหนึ่งยังพอใจสูงสุดไม่ได้ เพราะยังแก้ไขไม่ได้ครบทุกภาคส่วน ตนก็มอบเป็นนโยบายว่าทุกคนก็คาดหวังรัฐบาล หลายอย่างเราก็ต้องดูแล ต้องเร่งรัด ต้องปรับแผน และศึกษาเพิ่มเติม เราต้องพัฒนาไปหลายๆ พื้นที่พร้อมกัน และต้องพูดจาหารือกับมาเลเซียเพื่อนบ้านเราด้วย บางอย่างอาจจะติดขัดกันบ้างก็ค่อยๆ ปรับไป