เจออีก!!ระเบิดเพาเวอร์แบงก์ซุกร้านเสื้อผ้าย่านประตูน้ำ พบเชื่อมโยงของเดิม

จากเหตุเพลิงไหม้ร้านค้าเสื้อผ้าภายในตลาดเดือนเด่น​ หลังโรงแรมอินทราย่านประตูน้ำ จนทำให้เกิดความเสียหายกับอาคารบริเวณโดยรอบหลายคูหา ก่อนพบความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดป่วนกรุงระหว่างวันที่ 1-2 สิงหาคมที่ผ่านมา

เวลา 09.30 น. วันที่ 7 สิงหาคม พล.ต.ต.เสนิต สําราญสํารวจกิจ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 พร้อม พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ รอง ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ,พ.ต.อ.เจษฎา คุ้มศาสตรา ผกก.สน.พญาไท ,พ.ต.ท.พนม เชื้อทอง รอง ผกก.สอบสวน สน.พญาไท ร่วมกับเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด(อีโอดี) และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน

เข้าตรวจสอบภายในร้านไพโรจน์เบเกอรี่ ตั้งอยู่ริมถนนราชปรารภ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ หลังรับแจ้งว่า มีเพาเวอร์แบงก์ต้องสงสัยวางซุกไว้กับกองผ้าในร้าน

โดยนายวุฒิกร กุลกิจจา อายุ 28 ปี ลูกชายเจ้าของร้าน กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.50 น. วันที่ 6 สิงหาคม ขณะที่ตนกำลังจะเก็บร้านพร้อมกับคนงาน จู่ๆ ก็พบเพาเวอร์แบงก์ก้อนสี่เหลี่ยมสีขาว ซุกอยู่ในกองเสื้อผ้า ที่วางอยู่ใต้โต๊ะกลางร้าน ตนจึงเดินไปถามร้านข้างๆ ว่ามีใครลืมเพาเวอร์แบงก์ไว้ในร้านหรือไม่ ทางร้านข้างๆ ก็แจ้งว่าไม่มีเช่นเดียวกับลูกน้องตน

ทั้งนี้ ตนทราบว่าก่อนหน้านี้ได้เกิดเหตุระเบิดที่ใช้เพาเวอร์แบงก์ในละแวกนี้ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบโดยทันที อย่างไรก็ตาม แม้ว่าที่ร้านจะมีกล้องวงจรปิด แต่วานนี้ก็มีลูกค้าเข้าเป็นจำนวนมากจึงไม่ได้สังเกตว่าใครมีพิรุธหรือไม่

ต่อมาเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าเก็บหลักฐานจุดที่พบเพาเวอร์แบงก์และนำฮาร์ดดิสก์ของกล้องวงจรปิดภายในร้านไปตรวจสอบ โดยไม่มีนายตำรวจให้สัมภาษณ์ ก่อนจะนำสุนัขตำรวจเข้าสแกนพื้นที่เกิดเหตุทั้งหมด ไล่ตั้งแต่ร้านปุ๋ยแฟชั่น,ร้านฮ็อปในตลาดประตูน้ำและตลาดไซด์วอล์ก ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน เพื่อตรวจหาวัตถุแปลกปลอมอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพาเวอร์แบงก์ที่เก็บกู้ได้นั้น มีลักษณะเดียวกันกับระเบิดเพลิงทั้งหมด 7 จุด แบ่งเป็นประตูน้ำ 5 จุด สยามสแควร์ 2 จุด ซึ่งมีสวิตช์หน่วงเวลา แผงวงจรและส่วนผสมของสารไวไฟที่ทำให้ติดไฟง่าย คาดว่าจะเป็นระเบิดเพลิงแสวงเครื่องที่คนร้ายนำมาวางไว้พร้อมกัน แต่เครื่องล่าสุดที่เพิ่งพบเกิดเพลิงลุกที่ตัวเพาเวอร์แบงก์เล็กน้อย ไม่ลุกลามไปจุดอื่นของร้าน ทั้งนี้สันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะอากาศในจุดที่คนร้ายนำมาซุกไว้ไม่เพียงพอจะทำให้เพลิงลุกลามต่อไปได้