“ชูศักดิ์”ย้ำไม่กล่าวปฏิญาณตนให้ครบตามกำหนด-ไม่แจ้งที่มารายได้ เข้าข่ายจงใจฝ่าฝืนรธน.

“ชูศักดิ์” ย้ำ ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ-ไม่แจ้งแหล่งที่มาของรายได้ เข้าข่ายจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ เผย เสนอให้ส.ส.ซีกฝ่ายค้านตั้งกระทู้ถามในสภา

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีการอภิปรายนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมา มีกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านตั้งเป็นประเด็นขึ้นกรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณของรัฐบาลก่อนเข้ารับหน้าที่ว่าไม่ครบถ้วนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เรื่องนี้คงเป็นเรื่องใหญ่เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจนว่าให้กล่าวด้วยถ้อยคำดังต่อไปนี้ ที่ขาดหายไปเป็นสาระสำคัญคือการรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญทุกประการ ปัญหาคือแล้วรัฐบาลจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้หรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญบอกว่าก่อนเข้ารับหน้าที่ต้องถวายสัตย์ปฏิญาณเสียก่อน ซึ่งรัฐบาลก็ปฏิบัติหน้าที่ไปแล้วโดยไม่สนใจกับข้อสังเกตดังกล่าว ส่วนการแถลงนโยบายโดยไม่แจกแจงแหล่งที่มาของรายได้ก็เป็นเรื่องค่อนข้างชัดเจนและไม่ได้ตอบให้ได้ความกระจ่างอย่างใดอีกเช่นกัน ทำให้เป็นประเด็นขึ้นมาอีกว่าการแถลงนโยบายนั้นถูกต้องสมบูรณ์ตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

นายชูศักดิ์ กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวได้เสนอความเห็นให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในซีกฝ่ายค้านตั้งเป็นกระทู้ถามหรือเสนอเป็นญัตติให้รัฐบาลชี้แจงประเด็นที่กล่าวมาก่อน เพื่อตั้งเป็นประเด็นเกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่ขององค์กรว่าเป็นไปโดยชอบหรือไม่เข้าใจว่ารัฐบาลคงชี้แจงลำบาก หลังจากนั้นก็อาจร้องต่อป.ป.ช.ให้ไต่สวนเพราะเป็นเรื่องการจงใจไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญค่อนข้างชัดเจน และอาจเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบและอาจถือได้ว่าเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง เข้าใจว่าเป็นเรื่องใหญ่ และรัฐมนตรีทั้งหลายคงจะต้องให้ความสนใจดูตนเองว่าจะปฏิบัติหน้าที่ได้สมบูรณ์ตามก.ม.หรือไม่ และน่าจะเป็นหนังยาวติดตามรัฐบาลไปตลอดสมัยประชุมนี้ ส่วนจะมีช่องทางให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เป็นโมฆะหรือไม่ ดูแล้วก็พอมีช่องอยู่บ้าง แต่เห็นว่ายังไม่ควรดำเนินการในส่วนนี้ในขณะนี้