“พิชัย”สับ “บิ๊กตู่”บริหารมีแต่ทรุด ยอดส่งออกติดลบต่อเนื่อง ไทยถูกเวียดนามแซงแล้ว

“พิชัย” ชี้ “บิ๊กตู่”บริหารมีแต่ทรุดทำยอดส่งออกไทยถูกเวียดนามแซงแล้ว โวย รัฐบาลไม่ใส่ใจยูเอ็นเตือนภัยแล้งตั้งแต่ปีที่แล้ว ห่วง มีนโยบายแต่ไม่มีความสามารถที่จะฟื้นเศรษฐกิจได้

เมื่อวันที่ 24 ก.ค. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวแสดงความเห็นเรื่องปัญหาเศรษฐกิจประเทศในขณะนี้ ว่า เศรษฐกิจไทยยังคงตกต่ำต่อเนื่อง การส่งออกของไทยเดือนมิถุนายนยังคงติดลบต่อเนื่องที่ 2.15% ซึ่งเป็นการติดลบติดต่อกันตั้งแต่ต้นปี ทำให้ครึ่งปีแรกการส่งออกของไทยติดลบ 2.9% ซึ่งหากไม่รวมการส่งคืนยุทโธปกรณ์ในเดือนกุมภาพันธ์และการส่งออกทองคำในเดือนมิถุนายน การส่งออกครึ่งปีแรกจะน่าจะติดลบถึง 5% เลย และปีนี้โอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้แค่ 3 % ก็ยังอาจจะเป็นไปได้ยาก

ทั้งนี้แม้จะอ้างว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ และ จีน มีส่วนทำให้การส่งออกติดลบ แต่หลายประเทศเช่น ประเทศเวียดนามกลับไดัประโยชน์อย่างเต็มที่ การส่งออกของเวียดนามไปสหรัฐขยายตัวถึง 36% ตั้งแต่ต้นปี และ ปีนี้จะเป็นปีแรกที่ยอดการส่งออกของเวียดนามจะแซงหน้ายอดการส่งออกของไทย จากฝีมือการบริหารของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ตลอด 5 ปีนี้ และการที่เวียดนามมีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปี ในขณะที่การลงทุนของไทยหดหายมาตลอด จะทำให้การส่งออกของเวียดนามจะแซงไทยมากขึ้นไปอีกเรื่อยๆทุกปี แบบแซงแล้วแซงเลย ทั้งนี้เพราะความสามารถในการบริหารประเทศของผู้นำเวียดนามอีกทั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศที่มีต่อเวียดนามมีมากกว่าของประเทศไทยมาก จึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ได้ศึกษาว่าทำไมประเทศเวียดนามถึงได้บริหารประเทศได้ขยายตัวมากกว่าประเทศไทยมาก และอยากให้พลเอกประยุทธ์ได้ฟังการวิเคราะห์ของอาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ ที่บอกตรงว่าทีมเศรษฐกิจชุดเดิมของรัฐบาลประสพความล้มเหลวอย่างหนักในการบริหารเศรษฐกิจจึงควรที่จะเปลี่ยนและไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงต้องนำกลับมาใช้อีก

นอกจากประเทศไทยจะเจอปัญหาทางเศรษฐกิจที่จะเติบโตต่ำแล้ว ปัญหาภัยแล้งในปีนี้จะยิ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากขึ้นไปอีก ซึ่งหากย้อนหลังกลับไปปีที่แล้ว องค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ได้เตือนแล้วว่าปีนี้จะเกิดปรากฏการณ์เอลนิโญ ซึ่งจะทำให้อากาศแปรปรวนและจะแล้งมาก ซึ่งได้มีสื่อหลายสำนักได้เสนอข่าวนี้ อีกทั้งทราบว่ามีนักวิชาการหลายท่านได้เตือนรัฐบาลแล้ว แต่รัฐบาลกลับไม่ใส่ใจและไม่ได้มีการเตรียมการรับมือกับปรากฏการณ์ดังกล่าว ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงกับประชาชน โดยประชาชนเดือดร้อนกันอย่างมากจากภัยแล้งนี้ และอาจจะเดือดร้อนเพิ่มขึ้นกันอีก ซึ่งหากรัฐบาลจะได้ใส่ใจและเตรียมการรับมือไว้ล่วงหน้า ประชาชนก็คงไม่ลำบากเท่านี้ ไม่อยากให้พลเอกประยุทธ์ตอบเหมือนในอดีตที่ไม่แสดงความรับผิดชอบเมื่อเกิดภัยแล้ง เพราะคราวนี้ได้มีการเตือนแล้ว

ดังนั้น ไม่ว่านโยบายจะเขียนสวยหรูอย่างไร แต่หากหลักคิดและการปฏิบัติยังเป็นเหมือน 5 ปีที่ผ่านมา ที่นอกจากจะไม่ผลงานอะไรแล้ว ประชาชนยังลำบากกันอย่างมาก และจากผลงานในอดีต ก็พอจะเห็นได้ว่าโอกาสที่รัฐบาลจะดำเนินนโยบายและแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้สำเร็จได้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

มติชนออนไลน์