วันที่ 24 ก.ค. 2562 จากกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาตั้งเพื่อพิจารณาการขยายสัมปทานทางด่วนให้กับบริษัททางด่วนรถไฟฟ้ากรุงเทพ(BEM) นาน 30 ปี แลกกับการยุติคดีค่าโง่ และข้อพิพาททั้งหมด จนกระทั่งมีความสับสนจนต้องยกเลิกการประชุมเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม เหตุเพราะนพ.ระวี มาศฉมาดล รองประธานกมธ. หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ แก้ไขมติที่ประชุมโดยพลการ จากเดิมที่ที่ประชุมมีมติเชิญตัวแทน 3 ฝ่าย ประกอบด้วย คณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ประธานสหภาพการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และตัวแทนบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (BEM) แก้เป็นให้เชิญตัวแทนสร.กทพ.เพียงอย่างเดียว ตามที่เสนอไปก่อนหน้านี้

ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา มีตัวแทนสร.กทพ. ยื่นหนังสือต่อกมธวิสามัญฯ เพื่อขอชี้แจงการยื่นหนังสือของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไท(สร.กทพ.) โดยระบุถึงนายวีระกร คำประกอบ ประธานกมธ. มีเนื้อหาว่า ตามที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือฉบับที่สร.กทพ./ว.147 มายังท่านประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาการศึกษาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้า(บีทีเอส) เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2562 ที่ผ่านมานั้น โดยอ้างว่าเป็นความเห็นของสร.กทพ. เพื่อให้กมธ.วิสามัญฯ พิจารณา

ทั้งนี้ สร.กทพ. โดยคณะกรรมการสร.กทพ.เสียงส่วนใหญ่ ยืนยันว่าหนังสือดังกล่าวไม่ผ่านการลงมติรับรองจากที่ประชุมสร.กทพ. ไม่ใช่ความเห็นของสร.กทพ. และสร.กทพ.จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากความเห็นดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดและเกิดความเสียหายต่อการทางพิเศษแห่งประเทศไทย จึงขอให้กมธ.วิสามัญฯ ได้โปรดพิจารณาให้รอบคอบ และหากมีข้อสงสัยประการใด สร.กทพ. โดยคณะกรรมการจะเข้าชี้แจงต่อกมธ.วิสามัญฯ ตามที่กมธ.วิสามัญฯ เห็นสมควร