เผยแพร่ |
---|
“อนาคตใหม่” ได้ 260 นาที ถกนโยบายรัฐบาล เตรียม 18 ส.ส.อภิปราย เน้นวิพากษ์นโยบาย เก็บเรื่องคุณสมบัติไว้ตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ เตรียมดันญัตติ ขับ ส.ว.ตามบทเฉพาะกาลออกไป
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่พรรคอนาคตใหม่ อาคารไทยซัมมิท นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการวางตัวผู้สมัคร ส.ส.อภิปรายในส่วนของพรรค อนค. ว่าจากการประชุมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านพรรคอื่นๆ ก่อนสรุปได้ว่าจะได้เวลาอภิปรายทั้งหมด 13 ชั่วโมงครึ่ง โดยพรรค อนค.จะได้รับเวลาในการอภิปรายประมาณ 260 นาที ซึ่งทางพรรคเตรียมผู้อภิปรายไว้ 18 คน โดยตนจะเป็นคนเริ่มอภิปรายในเรื่องประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน การกระจายอำนาจ จากนั้นจึงเป็นคิวของ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค อนค. เรื่องนโยบายเศรษฐกิจทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เรื่องโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เรื่องนโยบายการเกษตร ปัญหาที่ดินทำกิน และปัญหาหนี้สินเกษตรกร พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคและ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เรื่องความมั่นคง และปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และในส่วนของนางวรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะพูดเรื่องประเด็นแรงงาน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการมารดาประชารัฐ นอกจากนี้ยังมีเรื่องสิ่งแวดล้อม พลังงาน เศรษฐกิจดิจิทัล ที่เราได้เตรียมคนอภิปรายไว้อย่างสร้างสรรค์ครบทุกมิติ
เมื่อถามถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลได้บรรจุไว้เป็นวาระเร่งด่วนนั้น นายปิยบุตรกล่าวว่า จากที่ได้อ่านนโยบาย พบว่ามีการกำหนดเรื่องแก้รัฐธรรมนูญเพียง 2 บรรทัด และไม่ได้มีการผูกมัดตัวเอง บอกเพียงแต่ว่าให้มีการศึกษา ทำความเข้าใจในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญเท่านั้น โดยตนได้เตรียมอภิปรายถึงความจำเป็นในการแก้รัฐธรรมนูญ และพยายามผลักดันให้ประเด็นดังกล่าวมีความเข้มข้นมากกว่านี้
เมื่อถามถึงการอภิปรายคุณสมบัติของรัฐมนตรี นายปิยบุตรกล่าวว่า เราจะไม่เน้นเรื่องคุณสมบัติในตัวบุคคลมากนัก แต่จะเน้นที่ตัวนโยบายในแต่ละด้านมากกว่า เพราะร่างนโยบายดูเหมือนว่าจะพูดถึงแง่ดีทั้งหมด และไม่ได้มีการลงรายอะเอียดใดๆ ดูเหมือนเอานโยบายของหลายๆ พรรคมาปะรวมกัน พรรค อนค.จึงจะเน้นในเรื่องการนำนโยบายเหล่านี้มาปฏิบัติว่าทำได้จริงหรือไม่ เช่น เรื่องการต่อต้านทุนผูกขาด การแข่งขันอย่างเป็นธรรม หรือเรื่องการท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม ที่ดินทำกิน เป็นต้น
“ในเรื่องรายละเอียดงบประมาณที่จะใช้ในโครงการต่างๆ ทางพรรคอนาคตใหม่จะขยายประเด็นนี้เพิ่มเติม โดยคุณศิริกัญญา ตันสกุล จะแจกแจงให้ดูว่าการเตรียมแถลงนโยบายที่ดีต้องทำอย่างไร หากยังจำกันได้ ตอนร่างรัฐธรรมนูญ ทุกคนกังวลกันว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกมาแล้วรัฐบาลจะเตรียมเรื่องนี้อย่างไร เพราะต้องเตรียมการเรื่องเม็ดเงินเต็มไปหมด แต่รัฐบาลชุดนี้ได้ทำให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้ว โดยการเขียนแถลงนโยบายโดยไม่บอกงบประมาณก็ได้ หมายความว่า รัฐบาลชุดอื่นๆ ก็ทำอย่างนี้ หากจะเอาอย่างนี้ก็ไม่เป็นไร แต่ผมอยากให้ใช้มาตรฐานเท่าเทียมกัน ไม่ใช่ว่าวันหนึ่ง เมื่อเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีแล้ว รัฐบาลชุดต่อไปต้องทำแบบเข้มงวด หรือแจกแจงรายละเอียดอย่างเต็มที่ ซึ่งที่เขียนมาก็ไม่ได้มีการเขียนเรื่องงบประมาณบรรจุไว้ มีเพียงแต่เขียนสั้นๆ เรื่องการเก็บภาษีเท่านั้น” นายปิยบุตรกล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรค อนค.พยายามผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป นายปิยบุตรกล่าวว่า คิดว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยต้องมีการเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมาเพื่อเขียนรัฐธรรมนูญของประชาชนใหม่ แต่ในระหว่างนี้ เรื่องจำเป็นเร่งด่วนก็สามารถแก้ไขได้ก่อน โดยเฉพาะสิ่งที่เราเตรียมไว้คือร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อรีเซต ส.ว. โดยการนำเอา ส.ว.ที่มีวาระ 5 ปี ตามบทเฉพาะกาลออกจากรัฐธรรมนูญให้ได้ มิเช่นนั้นจะเป็นกลไกการสืบทอดอำนาจ นี่คือเรื่องแรกที่เสนอ อีกเรื่องคือการยกเลิกมาตราสุดท้าย ที่รับรองความชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมายการใช้อำนาจของ คสช.ทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่สุด และน่าจะหาฉันทามติได้รวดเร็ว
“ตอนนี้พรรคอนาคตใหม่มี ส.ส.81 คน ซึ่งไม่พอจะเสนอญัตติดังกล่าว ทางเราพยายามพูดคุยกับ ส.ส.พรรคอื่นๆ ให้ร่วมลงชื่อกัน คิดว่าทุกคนทราบดีว่าการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ยากมาก หรือเกือบเป็นไปไม่ได้ เพราะในช่วงรับหลักการวาระที่ 1 ต้องมี ส.ว.ลงชื่อร่วมด้วย 84 คน ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้ แต่หากเราเสนอญัตติการแก้รัฐธรรมนูญเฉพาะเรื่อง ส.ว.ตามบทเฉพาะกาล และแสดงให้ประชาชนเห็นว่า หากพวกเขาอยากแก้เรื่องนี้ โดยมี ส.ส.กลุ่มหนึ่งที่พยายามทำให้มีการแก้ แต่มี ส.ว.มาขวาง ก็ให้ประชาชนเห็นไปเลยว่าใครเป็นคนขวาง หรือใครเป็นผู้เสียประโยชน์ ซึ่งเรื่องนี้จะผ่านหรือไม่ ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยก็ต้องทำให้เห็นว่ามติของมหาชนไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ได้เข้าไปพูดในสภา” เลขาฯพรรค อนค.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิยบุตรได้กำชับ ส.ส.ของพรรค อนค.ที่จะขึ้นอภิปรายในวันแถลงนโยบาย ว่าขอให้เน้นที่การวิพากษ์วิจารณ์เนื้อหาสาระของร่างนโยบายเป็นหลัก โดยไม่วิจารณ์คุณสมบัติของรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เนื่องจากทางพรรคร่วมฝ่ายค้านเองนั้นได้เตรียมความพร้อมที่จะพูดเรื่องนี้ในสภาอยู่แล้ว โดยพรรค อนค.จะพูดเรื่องนี้อีกครั้งในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อไป
มติชนออนไลน์