นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  เปิดเผยว่า รอแถลงนโยบายอย่างเป็นทางการจะนัดหารือกับผู้บริหารกระทรวงการคลังเพื่อหารือถึงแนวทางในการดูแลเศรษฐกิจ เพราะขณะนี้เศรษฐกิจไทยกำลังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่เชื่อมั่นว่าไทยเข้มแข้งเพียงพอ ล่าสุด บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิตซ์ เรตติ้ง  ปรับเครดิตประเทศไทย ถือปรับมุมมองความน่าเชื่อถือของรัฐบาลในการออกตราสารหนี้สกุลเงินตราต่างประเทศและสกุลเงินบาทระยะยาวจากระดับมีเสถียรภาพ (Stable outlook) เป็น เชิงบวก (Positive outlook) และคงอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลในการออกตราสารหนี้สกุลเงินตราต่างประเทศและสกุลเงินบาทระยะยาวที่ระดับ BBB+ ตราสารหนี้สกุลเงินตราต่างประเทศและสกุลเงินบาทระยะสั้นที่ระดับ F1 และเพดานอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ (Country Ceiling) ที่ระดับ A-

นายอุตตม กล่าวว่า การเครดิตดังกล่าวถือว่าดีมากสำหรับไทย ฟิตซ์ระบุว่าความเข้มแข็งนำไปสู่การปรับอันดับเครดิต เพราะว่าไทยมีนโยบายการเงินการคลังที่สอดรับกับสถานการณ์ทำให้ประเทศเข้มแข็ง ในเรื่องเศรษฐกิจนั้นจะเดินหน้าความเข้มแข็งเศรษฐกิจในประเทศตั้งแต่ฐานรากขึ้นมาให้ได้ เพื่อให้ประเทศมีภูมิคุ้มกัน โดยเตรียมออกมาตรการเพื่อมาดูแลผลกระทบจากเศรษฐกิจภายนอกประเทศ มีกลุ่มที่ต้องดูแล เช่น  กลุ่มเกษตร วิสาหกิจชุมชน โดยขอหารือกับผู้บริหารกระทรวงการคลังหลังรัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภาฯ ก่อนจึงจะสรุปมาตรการที่ชัดเจน และนำเสนอต่อครม.เป็นขั้นตอน

นายอุตตมกล่าวว่า ส่วนเรื่องบาทแข็งและดอกเบี้ย มีปัจจัยที่กระทบอยู่ฟิตซ์พูดถึงดุลต่างๆ ของไทยเป็นเหตุผลทำให้เงินบาทขยับแข็งขึ้นมาถือเป็นไปตามธรรมชาติ เชื่อมั่นว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ และยินดีหากเอกชนจะมาหารือในเรื่องดังกล่าว

มติชนออนไลน์