“ธนาธร” แจง ผลเยือนสหรัฐ-อียู ดูงาน เล็งปรับใช้ใช้ทำนโยบายอนค.ลงเลือกตั้งท้องถิ่น โต้ ข่าวลือหนี บอก ตั้งพรรคมาเตรียมใจไว้แล้วว่าต้องโดนคดี ยัน ไม่หนีเด็ดขาด ชี้ ชาติคือปชช. ไม่ใช่คสช.-ประยุทธ์ อัด คนรับใช้เผด็จการต่างหากที่ขายชาติ

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อนค. แถลง สรุปภารกิจการเยือนสหรัฐ และหลายประเทศในยุโรป ว่า หลายคนสงสัยต่อการเดินทางประเทศของ จึงอยากแถลงถึงวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนว่ามี 4 ข้อ ว่า 1.มีการสร้างเครือข่ายกับ ส.ส.ในต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลหลายประเทศ รวมถึงภาคประชาสังคมที่เชื่อมั่นในหบักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย เพื่อทำให้ทำงานสะดวกขึ้นในวันที่เราเป็นรัฐบาล 2.ชี้แจงสถานการณ์การเมืองไทย ให้องค์กรและเจ้าหน้าที่รัฐที่สนใจ 3.ศึกษาเรียนรู้เปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในอียูและสหรัฐ และ 4.ดูงานการพัฒนาเมือง เพื่อศึกษาว่า มีนวัตกรรมที่จะนำกลับมาใช้กับประเทศไทยอย่างไรบ้าง

“เพราะอนค.มีแนวทางเตรียมลงเลือกตั้งท้องถิ่น จึงต้องศึกดูว่าเมืองที่พัฒนาแล้ว กับเมืองที่ยังไม่พัฒนาเป็นอย่างไร ตัวอย่างคือ เมืองลอนดอน มีการถ่ายประชุมสภาทุกครั้งและย้อนหลัง มีโครงการยังลอนดอนเนอร์ส ให้คนหนุ่มสาวในชุมชนเสนอโครงการเพื่อพัฒนาศักยภาพคนรุ่นเยาว์ ทั้งด้านกีฬา ศิลปะ ซึ่งทั้งหมดนี้จะกลับมาอยู่ในนโยบายที่อยู่ในการเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่ใช่แค่กรุงเทพฯ แต่เป็นทุกเมืองที่ อนค.จะส่งลงเลือกตั้งในระดับ อบจ. หากใครอยากรู้ก็ขอให้ลองเข้าเว็บไซต์ กทม.เปรียบเทียบเว็บไซต์เมืองลอนดอนเทียบดู” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร กล่าวว่า สรุปการเดินทางทั้งหมดนั้น ได้พบกับองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตย 7 องค์กร เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงต่างประเทศ 4 ประเทศ และอียู 1 แห่ง รวม 5 พบ กมธ.การต่างประเทศ 6 ท่าน และบรรยายสาธารณะการทำงาน “ก้าวต่อไปของอนค.” ที่ LSE รวมเดินทางไปทั้งหมด 5 เมืองคือ บรัสเซลส์ เบอร์ลิน ลอนดอน นิวยอร์ก และวอชิงตัน สิ่งที่ได้กลับมาคือเสียงสะท้อนความห่วงใยสถานการณ์เมืองไทย ที่หลายประเทศตระหนักและอยากเห็นไทยกลับมาเป็นประชาธิปไตย ยึดถือหลักนิติรัฐ สิทธิสากล ทุกองค์กรตัวแทนอยากเห็น ไทยมีบทบาทนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายธนาธร กล่าวอีกว่า สำหรับข้อกล่าวหาว่าตนหลบหนีนั้น ตนขอเรียนว่า ตั้งแต่เราตั้งพรรคอนค.เมื่อปีที่แล้ว เรารู้ว่า การเมืองไทยกำลังต่อสู้ กับโจทย์ใหญ่เรื่องอำนาจว่า อำนาจเป็นของใคร ซึ่ง อนค.เชื่อว่า อำนาจเป็นของประชาชน การต่อสู้เพื่อทวงคืนประชาธิปไตย จึงต้องชนกับเผด็จการ ที่แปลงร่างเป็นเผด็จการที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว การเล่นงานผ่านคดีความจะต้องเกิดขึ้น ตนเตรียมใจมาแล้ว ไม่มีการหลบหนีเด็ดขาด ตนยืนยันว่าตนและแกนนำคนอื่นๆ ของพรรคไม่มีทางหลบหนี นี่เป็นเพียงข้อความใช้โจมตี อนค. ส่วนข้อกล่าวหาว่า ตนขายชาติ ก็ขอเรียนว่า นิยามคำว่าชาติของ อนค. คือ ประชาชน ชาติไม่ใช่รัฐบาล ชาติไม่ใช่ความมั่นคงของคสช. ชาติไม่ใช่ความมั่นคงของ พล.อ.ประยุทธ์ ข้อหารือกับนานาชาติ ในเจตนาของเราไม่ได้มีความคิดทำลายชาติเลย คนที่กล่าวหาเรา คือคนรับใช้เผด็จการ คนรับใช้เผด็จการต่างหากที่ขายชาติ ทำลายชาติ