‘นคร’ ชี้รัฐบาล-พรรคร่วมไร้ความจริงใจ แก้ รธน. ปลุกปชช.รวมพลังกดดัน

เมื่อวันที่ 18 ก.ค. นายนคร มาฉิม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านและประชาชนเท่านั้น ที่จะสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช. ปี 2560 ได้ ไม่ต้องหวังจากรัฐบาลและพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลทั้ง 19 พรรค

โดยระบุว่า รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช.ปี 2560 แม้จะอ้างว่า ผ่านประชามติ แล้วโดยเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ แต่ต้องไม่ลืมว่าเป็นประชามติ ที่ฝ่ายเผด็จการหลอกลวง บังคับขู่เข็ญ จับกุมคุมขัง ปรับทัศนคติคนเห็นต่าง ไม่ได้บอกความจริงอย่างรอบด้านแก่ประชาชน

วางยาพิษ ซ่อนกับดักหลุมพราง ทำลายนักการเมืองและพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย สกัดกั้นการพัฒนาประเทศทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจสังคมและการเมือง เป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนาประเทศอย่างรุนแรง เพียงเพื่อให้ระบอบเผด็จการคงอยู่ ปกครองและสืบทอดอำนาจตลอดไป

เช่น การแต่งตั้ง ส.ว.เป็นฐานคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี การใช้เทคนิคกลโกงทางกฎหมายบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชน ทำให้พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งเป็นที่หนึ่งและแนวร่วมฝ่ายประชาธิปไตย ถูกฝ่ายเผด็จการใช้กลโกงทุกอย่าง บวกกับ ส.ว.ที่พวกเขาแต่งตั้งมาโหวตเลือกแกนนำฝ่ายเผด็จการเป็นนายกรัฐมนตรี อย่างไม่ละอาย

พวกเขาจึงพูดอย่างเต็มปากด้วยความหยิ่งผยองว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ถูกดีไซน์มาเพื่อพวกเขาเท่านั้นให้เป็นรัฐบาล พวกเขาจึงร่วมมือกัน แบ่งภารกิจหน้าที่กัน และมารวมตัวกันจัดตั้งรัฐบาลสืบทอดอำนาจมาถึงวันนี้ และมีแผนสืบทอดอำนาจต่อไปอีกยาวนาน

“พวกเขาได้ผลประโยชน์ ได้เป็นรัฐบาล และมีอำนาจรัฐจากการใช้รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช. นี้อย่างทั่วหน้า มีตำแหน่งใหญ่โต มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ จึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะแก้ ไม่คิดแก้และไม่มีความจริงใจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และที่บางพรรคอ้างเป็นเงื่อนไขร่วมรัฐบาลว่าจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยถึงจะมาร่วมรัฐบาล เป็นแค่เพียงวาทกรรมข้ออ้างให้ดูดี”

หลังจากเคยพูดต่อประชาชนว่าจะไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์มาเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วตระบัดสัตย์ผิดคำพูดทรยศต่อประชาชน กลับมาร่วมรัฐบาลแล้วสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น แต่จากกิริยาอาการ คำพูดและท่าทีที่แสดงออกของแกนนำพรรคแล้ว คนที่กินข้าวทุกคน ไม่ได้กินอย่างอื่นย่อมรับรู้ว่าพวกเขาคือพวกเดียวกัน และไม่มีความจริงใจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่พวกเขาได้ประโยชน์สูงสุดในการยึดอำนาจรัฐ ยึดอำนาจประชาชนโดยกฎหมาย

จึงไม่ต้องหวังว่ารัฐบาลและพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลนี้ จะทำการแก้ไขรัฐธรรมนูญเลย หรือหากแก้ก็แค่เป็นพิธีกรรมว่าได้แก้ไขแล้วนะ แต่หลักการใหญ่ๆ เช่น การแต่งตั้ง ส.ว.ให้เปลี่ยนมาเป็นให้ประชาชนเลือก เพิ่มอำนาจให้ประชาชน ลดอำนาจรัฐ ลดอำนาจองค์กรอิสระ ไม่ให้ศาลและกระบวนการยุติธรรมรับรองอำนาจการรัฐประหาร การให้การยึดอำนาจ การทำรัฐประหารเป็นอาชญากรรม เป็นกบฏ มีโทษประหารชีวิต ไม่สามารถนิรโทษกรรมได้ และประชาชนทุกคนสามารถเอาผิดต่อคณะเผด็จการรัฐประหารได้ ไม่มีวันที่ฝ่ายรัฐบาลและพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลจะแก้ไข

จึงเหลือเพียงพรรคร่วมฝ่ายค้าน 7 พรรค และแนวร่วมภาคประชาชนนอกสภาเท่านั้น ที่มีความจริงใจ มุ่งมั่น ตั้งใจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเผด็จการ คสช. ให้เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์อย่างจริงใจ หากแต่เงื่อนไขการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ กระบวนการการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถูกเหล่าลิ่วล้อบริวารของเผด็จการที่เป็นนักกฎหมายปีศาจ สร้างเงื่อนไข กับดักหลุมพรางไว้จนไม่อาจจะทำได้ในทางปฏิบัติ และไม่มีวันทำได้สำเร็จ

เว้นแต่ประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกสาขาอาชีพจะรวมพลังกันกดดันรัฐบาล และพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล จำใจต้องยอมแก้ไข และจะต้องกำหนดประเด็นที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ชัดเจน และหากเป็นไปได้ควรจะแสวงหาแนวทางยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ทั้งฉบับ เช่น รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนปี 2540 จึงจะสามารถทำให้กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตย เป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เพราะหากแก้ไขโดยไม่ยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ทั้งฉบับ จะไม่สามารถทำให้เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ได้

จึงขอให้พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยทั้ง 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ผนึกกำลังอย่างมีเอกภาพ ประสานกับประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกสาขาอาชีพ และทุกมหาวิทยาลัย ทุกสถาบันการศึกษา ทุกองค์กร ร่วมทำ “สัญญาประชาชน เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย” แล้วขับเคลื่อน สนับสนุน ส่งเสริมกันและกันอย่างเป็นระบบ มีเอกภาพ กดดันให้รัฐบาลเผด็จการในเสื้อคลุมประชาธิปไตย จำยอมต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้ จึงจะสำเร็จ

#ร่วมสร้าง สัญญาประชาชน เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย