เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เดินทางมายังกระทรวงการท่องเที่ยวฯเป็นครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง โดยมีคณะผู้บริหารทั้งจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ รวมถึงภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวรอให้การต้อนรับและมอบกระเช้าดอกไม้แสดงความยินดี ทั้งนี้นายพิพัฒน์ได้ไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ ตามธรรมเนียมปฏิบัติหลังเข้ารับตำแหน่ง ก่อนจะเข้าประชุมเป็นการภายในกับเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวถือเป็นรายได้หลักของประเทศ จะพยายามทำงานเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยให้มากขึ้น และนำรายได้เข้ามาสู่ประเทศให้มากกว่าที่ผ่านมา สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เกิดเหตุการณ์เรือร่มที่จังหวัดภูเก็ตในปี 2561 รวมถึงเศรษฐกิจของจีนที่ยังดูไม่ค่อยดีมากนัก เบื้องต้นหากจะมีการออกมาตรการที่เป็นการกระตุ้นตลาดจีนโดยเฉพาะอย่างไร ต้องดูนโยบายของนายกรัฐมนตรีก่อนจึงจะมีความชัดเจนมากขึ้น ในส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยวและเป้ารายได้ คงไม่มีการปรับเป้าหมายลดลง เพราะจะเป็นการพัฒนาให้ได้มากกว่าเดิมแทน

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เรื่องเร่งด่วนที่จะดำเนินการเป็นอย่างแรกคือ การสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันยังได้ยินอยู่บ่อยครั้งว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่มีความมั่นใจในความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว จึงเป็นภารกิจที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน ซึ่งแนวทางคร่าวๆ ในการดำเนินงานคือ จะสร้างอาสาสมัครตามชุมชน ในการช่วยดูแลและปกป้องนักท่องเที่ยว เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะมีกำลังไม่มากพอ จึงจะหาวิธีระดมอาสาสมัครเข้ามาในชุมชม ซึ่งจะเริ่มต้นในปีนี้

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ข้อเรียกร้องของภาคเอกชนที่ต้องการให้ขยายเวลาการใช้มาตรการฟรีวีซ่า ซึ่งมีโอกาสที่จะต่ออายุแต่ทั้งนี้ต้องรอนโยบายของนายกรัฐมนตรีก่อน จึงจะสามารถบอกได้แน่ชัด แต่จริงๆ ในฐานะที่เข้ามาดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ก็มีความต้องการที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่ต้องการเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยให้มากที่สุด และจากเสียงสะท้อนของภาคเอกชนบอกว่าที่ผ่านมายังไม่ค่อยได้ส่งเสียงถึงปัญหาหรือความต้องการในภาคการท่องเที่ยวมากนัก ดังนั้นจะพยายามลงพื้นที่ทำความรู้จักกับผู้ประกอบการในทุกจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวไปถึง และจะเน้นการท่องเที่ยวชุมชนเพราะรายได้จะลงถึงชุมชนโดยตรง ไม่ใช่กระจุกตัวอยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งเท่านั้น

“เมื่อรับมอบหน้าที่เข้ามาทำงานแล้ว ก็ต้องไม่มองว่าเป็นงานที่ยาก ต้องไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องยาก ทุกอย่างต้องฟันฝ่าไปให้ได้ และต้องทำให้ดีที่สุด โดยจะดูรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯที่ผ่านมาเป็นแบบอย่าง อะไรที่ดีก็จะคงไว้ต่อไป ส่วนอะไรที่อาจจะยังไม่ดีเท่าที่ควรก็จะพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม” นายพิพัฒน์กล่าว

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในส่วนของค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่ามากขึ้น เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติลดลง เพราะการที่ค่าเงินบาทแข็ง นักท่องเที่ยวก็จะใช้เงินในการท่องเที่ยวมากขึ้น ดังนั้นจะปรึกษากับผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ว่าจะทำอย่างไรให้ค่าเงินบาทอยู่ในค่าที่เหมาะสมมากที่สุดได้ สำหรับการท่องเที่ยวเชิงกีฬา จะมีการผลักดันให้นำการจัดงานกีฬาระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการนำรายได้เข้าประเทศอีกส่วนหนึ่ง เพราะผู้ติดตามที่จะเข้ามาชมการแข่งขันก็น่าจะถือโอกาสเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยด้วย เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต้องการมาเที่ยวมากอยู่แล้ว

มติชนออนไลน์