“บิ๊กตู่” ย้ำมีความสุขหลังมี ครม.ใหม่ ยันจากนี้ไม่มีคำสั่งพิเศษ เรียกคนปรับทัศนคติอีก

เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก ที่ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง ว่า ที่ประชุม ครม.ได้หารือกันหลายประเด็น โดยเฉพาะให้มีการเรียนรู้ระบบการทำงานของเราในช่วงที่ผ่านมา และให้พัฒนาต่อไป โดยเฉพาะเรื่องงานเอกสาร กฎหมาย ซึ่งก็ได้เตือนกันทุกคน ขอให้ระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ และให้ปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด เราในฐานะเป็นรัฐบาลใหม่ก็ต้องทำสิ่งที่เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนให้มากที่สุด ฉะนั้น รัฐบาลเก่าคือรัฐบาลเก่า จบไปแล้ว นี่คือ รัฐบาลใหม่ เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมวันนี้ได้มีการหารือเรื่องระเบียบราชการอะไรต่างๆ ด้วย รวมถึงนโยบายรัฐบาลที่เตรียมการแถลงในวันที่ 25 ก.ค. และยังได้พูดถึงแผนงานต่อไป ซึ่งหลังจากแถลงนโยบายแล้วคงเป็นเรื่องของการจัดสรร แบ่งหน้าที่ ในแต่ละกระทรวง ทั้งหมดต้องทำงานเพื่อประเทศไทย เพราะเราเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ ทุกคนเข้าใจกันดี ยิ้มแย้มแจ่มใส มีบรรยากาศมิตรไมตรี ตนขอให้เรื่องความรักความสามัคคี พรรคก็เป็นส่วนของพรรค ถือเป็นอีกเรื่อง ตรงนี้เป็นนโยบายที่ตอบทุกพรรคได้ แต่จะดำเนินการอย่างไรให้เกิดความเหมาะสมสมดุล ซึ่งได้คุยกันหมดแล้ว ทุกคนก็พอใจ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ได้เห็นชอบแต่งตั้งนายดิสทัต โหตระกิตย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยมีการแต่งตั้งเพียงตำแหน่งเดียว ส่วนตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ยังไม่มีการแต่งตั้ง และกำลังหาอยู่ จะกำลังพิจารณาทั้งคนนอกและคนในอย่างเหมาะสม ซึ่งยังมีตำแหน่งรองโฆษก รวมทั้งหมด 3 คน ซึ่งคุณสมบัติของโฆษกรัฐบาลนั้น ต้องรอบรู้ เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของประเทศ โดยเฉพาะโลกในยุคโซเชียล ดิจิทัล รวมถึงรู้ในระบบราชการ ดังนั้น จึงต้องมีหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายต่างๆ ขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่ ขอให้ใจเย็นๆ

เมื่อถามรู้สึกอย่างไรที่ได้นั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีประชาธิปไตยวันแรก พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับหัวเราะ แล้วกล่าวว่า วันนี้วันแรกหรือ ที่ผ่านมาไม่เคยเป็นประชาธิปไตยเลยหรือ ที่ผ่านมา ตนก็เป็นประชาธิปไตย วันนี้เรามาเริ่มต้นในสิ่งที่ดีดีกว่า ขอให้ช่วยกันและช่วยรัฐบาลด้วย อะไรที่เป็นความขัดแย้งและเป็นปัญหาขอให้จบ วันนี้เรามาเริ่มต้นเดินหน้าใหม่ ก้าวใหม่ของเรา แม้จะไม่ชอบตน เบื่อตน ก็ขอให้อยู่กับตนไปก่อน โอเคไหม วันนี้ตนยิ้มพอได้มั๊ย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พูดถึงตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับหัวเราะ พร้อมถอนหายใจ “เฮ้” “มีความสุข” พร้อมกล่าวว่า จริงๆนะ อยากบอกว่าวันนี้มีความสุข เพราะทุกคนน่ารัก ส่วนการทำงานร่วมกับสื่อ ตนก็มีความใกล้ชิด แต่คงไม่ไกลมาก เพราะจะเป็นอันตราย สามารถใกล้ชิดได้ในวาระสำคัญ แต่ไม่ใช่จะตามใกล้ชิดกันทุกวันและทุกเรื่อง อย่างนั้นทำไม่ได้ เพราะความขัดแย้งมีสูง ขออย่าให้ใครมาขยายความขัดแย้งเลย แต่ขอร้องอย่าเปิดประเด็นในสิ่งที่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะถ้าเปิดมา ก็รัวกันหมด ทั้งนี้ บางอย่างเราจำเป็นต้องมีหลักการและเหตุผล การทำงานต้องมีหลักกฎหมาย ตนระมัดระวังที่สุด อย่าบอกว่าตนไม่ถูกตรวจสอบ หลายอย่างสามารถไปดูได้ ว่าถูกตรวจสอบและได้ชี้แจงต่อสู้คดีอย่างไร

เมื่อถามว่าได้มีการบรรจุการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไว้ไหนร่างนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในนโยบายเขียนไว้ว่า สนับสนุน ซึ่งทุกคนก็ยอมรับ โดยสนับสนุนให้มีการแก้ไข ในทุกกฎหมายสามารถแก้ไขได้ แต่ไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลา ก็แก้ไขกันไป เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น อยู่ที่จะทำเร็วหรือทำช้า เรื่องนี้ต้องศึกษา ทำประชาพิจารณ์ เช่นเดียวกับการทำประชาพิจารณ์กฎหมายทุกฉบับ

เมื่อถามว่าก่อนแถลงนโยบายจะมีการประชุม ครม.ในวันอังคารที่ 23 กรกฎาคมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะมีการประชุม ครม.ก่อนแถลงนโยบาย โดยถือเป็นการประชุมตามปกติ และเรามีเรื่องร่าง พ.ร.บ.ประมาณ ซึ่งต้องทำให้เร็ว เพราะจะไม่ทัน ซึ่งขณะนี้ล่าช้าไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงหนึ่ง ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศ ได้ถาม พล.อ.ประยุทธ์ เป็นภาษาอังกฤษว่า จะให้ความมั่นใจได้หรือไม่ว่า หลังจากนี้จะไม่ใช้คำสั่ง คสช. เกี่ยวกับการเรียกปรับทัศนคติอีก โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้ผู้ประสานงานได้ช่วยแปลเป็นภาษาไทย พร้อมตอบว่า มันไม่มีแล้ว จะมีตรงไหนอีก วันนี้มีแต่กฎหมายปกติ ขณะนี้ได้ยกเลิกกฎหมายพิเศษไปหมดแล้ว กฎหมายพิเศษจบไปพร้อมกับรัฐบาลชุดที่แล้ว อย่าพูดย้อนกลับไปกลับมาอีก

เมื่อถามว่ามีความมั่นใจในการควบคุมดูแลกระทรวงกลาโหมอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถาม พร้อมเดินออกจากวงสัมภาษณ์ ก่อนส่งสัญลักษณ์มือ ไอเลิฟยูให้กับผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดี