เมื่อวันที่ 14 กรกฏาคม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากถวายสัตย์ปฏิญาณแล้ว ตนจะหารือ พร้อมแบ่งงาน และภาระหน้าที่ต่างๆ ภายใน ศธ.กับคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.ทั้งนี้ ปัญหาการศึกษาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน คือ ปัญหาสวัสดิการครู ที่ถือเป็นเรื่องแรกๆ ที่อยากเข้าไปช่วยดูแล เพราะครูถือเป็นบุคคลที่สำคัญในการขับเคลื่อนการศึกษาไทย ทั้งนี้ อยากช่วยสร้างองค์ความรู้ให้ครูได้เรียนรู้เพิ่มเติม โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ เพราะปัจจุบันการเรียนรู้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลหมดแล้ว ถ้าครูมีความรู้ภาษาอังกฤษไม่ดีพอ อาจจะจัดการข้อมูลลำบาก

“นอกจากนี้ ผมอยากให้ครูมีความสบายใจเรื่องของการสอน จึงอยากช่วยดูแลปัญหาที่ครูพบเจอในเบื้องต้น เช่น เรื่องภาระหนี้สิน เป็นต้น อีกทั้ง จะส่งเสริมให้ครูมีเวลาการสอน อยู่กับห้องเรียนมากขึ้นด้วย รวมทั้ง ดูแลเด็กปฐมวัย อายุ 2-6 ขวบ ซึ่งต่อไปในอีก 10 ปีข้างหน้า เด็กเหล่านี้จะกลายเป็นอนาคตของชาติ แม้จะไม่อาจแก้ไขปัญหาได้ทันที แต่ในช่วงเวลา 3-4 ปีนี้ ต้องวางรากฐานการศึกษาปฐมวัยไว้ เพราะผมมองว่าเด็กอายุ 2-6 ขวบ เป็นช่วงที่สมองนั้นกำลังพัฒนาการ ต้องดูแลนักเรียนส่วนนี้ให้ดีขึ้นด้วย” นายณัฏฐพล กล่าว

นายณัฏฐพลกล่าวต่อว่า ส่วนที่คุณหญิงกัลยาเสนอนโยบายภาษาคอมพิวเตอร์ หรือโค้ดดิ้ง เป็นภาษาที่ 3 ของหลักสูตรการศึกษาประเทศไทยนั้น ไม่มีปัญหา และยินดีอย่างมาก เพราะว่าเป็นการเรียนโค้ดดิ้ง ถือเป็นสิ่งที่สำคัญในการเตรียมนักเรียน และประเทศชาติเข้าสู่ศตวรรษที่ 21

“หนึ่งในปัญหาเร่งด่วนของ ศธ.ที่ยากเข้าไปแก้ไข คือปัญหาอาหารกลางวันที่นักเรียนกำลังประสบในขณะนี้ เพราะแต่ละพื้นที่จัดอาหารกลางวันให้นักเรียนไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ตนขอรับทราบปัญหาภาพรวมในเรื่องนี้ก่อน ว่าแต่ละพื้นที่ประสบปัญหาการจัดการโครงการอาหารอย่างไรบ้าง และเตรียมจะลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการอาหารกลางวันภายหลังเข้ารับงานอย่างเป็นทางการ” นายณัฏฐพล

มติชนออนไลน์