‘นิพนธ์’ จองคุมกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ไม่หวั่นฝ่ายค้านจ่อซักฟอกในสภา

เมื่อวันที่ 13 ก.ค. นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีชื่อเป็น 1 ใน 6 รัฐมนตรี ที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันที่ 25 ก.ค. อ้างพบความไม่โปร่งใสเงินอุดหนุนสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา สมัยเป็นนายกอบจ.สงขลาว่า ไม่เป็นอะไร ยืนยันว่าชี้แจงได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว เพราะมีเอกสารหลักฐานทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว คิดว่าข้อมูลที่คนของฝ่ายค้านมีอยู่และเคยนำไปยื่นร้องเรียนต่อหน่วยงานต่างๆนั้น เป็นข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน ครึ่งๆกลางๆ และหากฝ่ายค้านขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีจริง เขาก็มีสิทธิ์ทำได้ และรัฐบาลควรถือโอกาสนี้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน

ส่วนการแบ่งงานความรับผิดชอบในกระทรวงมหาดไทยกับนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทยนั้น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้นัดหมายเบื้องต้นว่าจะพูดคุยกับตนและนายทรงศักดิ์ถึงการแบ่งภารกิจกันในวันที่ 18 ก.ค. ที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อถามว่ามีปัญหาการแบ่งห้องทำงานกับนายทรงศักดิ์เหมือนกรณีของรัฐมนตรีบางกระทรวงหรือไม่ นายนิพนธ์ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ไม่มีปัญหาเลย คนที่มีปัญหาพวกนั้นประสบการณ์น้อย

นายนิพนธ์ กล่าวว่า สิ่งที่ตั้งใจหลังการรับตำแหน่ง หากได้รับโอกาสจากรมว.มหาดไทย ซึ่งตนในฐานะที่มีประสบการณ์ทำงานด้านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)มาแล้ว จึงอยากดูงานในส่วนของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น(สถ.)เพื่อ 1.นำมาขยายผลการกระจายอำนาจและเน้นขยายกิจกรรมสาธารณะให้ อปท. สนองนโยบายของรัฐบาลเป็นผลงานที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ อาทิ การใช้ยางพารามาทำถนนพาราแอสฟันติสคอนกรีตใช้ยางพาราเป็นส่วนผสมในการทำถนน ซึ่งแม้ส่วนท้องถิ่นจะไม่มีอำนาจโดยตรงในการแก้ไขเรื่องปัญหายางพาราตกต่ำ แต่สามารถใช้เป็นกลไกในการแก้ไข จะทำให้ราคายางมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น จะทำให้ อปท.เป็นที่พึ่งของประชาชนในการแก้ไขปัญหาต่างๆได้ เป็นต้น

2.จะส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับคนในชุมชนให้มีความเข้มแข็งตอบโจทย์เศรษฐกิจฐานรากเพื่อให้ชุมชนมีการพัฒนาชีวิตและความเป็นอยู่ดีขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และ 3.การสร้างตำบลปลอดภัยโดยเน้นสร้างความปลอดภัยวินัยจราจรจากระดับตำบล หมู่บ้าน เพื่อแก้ไขและป้องกันการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินที่เกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยจะผลักดันทำให้เป็น “ตำบลปลอดภัย”ทั่วประเทศในการลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน โดยการเข้มงวดบังคับใช้กฎหมายและรณรงค์อย่างต่อเนื่อง